ความเร็วเสียง

ความเร็วเสียง คือ ระยะทางที่เสียงเดินทางไปในตัวกลางใดๆ ได้ในหนึ่งหน่วยเวลา โดยทั่วไปเสียงเดินทางในอากาศที่มีอุณหภูมิ 25°C (= 298,15 K) ได้ประมาณ 346 เมตร/วินาที และในอากาศที่อุณหภูมิ 20°C ได้ประมาณ 343 เมตร/วินาที ความเร็วที่เสียงเดินทางได้นั้นอาจมีค่ามากขึ้นหรือน้อยลงขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของตัวกลางเป็นหลัก และอาจได้รับอิทธิพลจากความชื้นบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ขึ้นกับความดันอากาศ

เนื่องจากการเดินทางของเสียงอาศัยการสั่นของโมเลกุลของตัวกลาง ดังนั้นเสียงจะเดินทางได้เร็วขึ้นหากตัวกลางมีความหนาแน่นมาก ทำให้เสียงเดินทางในเร็วของแข็ง แต่เดินทางไม่ได้ในอวกาศ เพราะอวกาศเป็นสุญญากาศจึงไม่มีโมเลกุลของตัวกลางอยู่




การคำนวณความเร็วเสียง
ความเร็วเสียง c โดยทั่วไปคำนวณหาได้จาก


โดย

C คือ สัมประสิทธิ์ของความแข็งเกร็ง (coefficient of stiffness)
ρ คือ ความหนาแน่น
ดังนั้น ความเร็วเสียง จะเพิ่มขึ้นตามความแข็งเกร็งของวัสดุ และ ลดลงเมื่อความหนาแน่นเพิ่มขึ้น


[แก้] ความเร็วเสียงในของแข็ง
ของแข็งนั้นมีค่าความแข็งเกร็งไม่เป็นศูนย์ ทั้งต่อแรงบีบอัด หรือ การเปลี่ยนปริมาตร (volumetric deformation) และ แรงเฉือน (shear deformation) ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่จะกำเนิดคลื่นเสียงที่มีความเร็วต่างกัน ขึ้นกับรูปแบบของคลื่น

ในแท่งของแข็ง ซึ่งมีขนาดความหนา (หรือขนาดของตัวกลาง ในแนวตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ของคลื่น) เล็กกว่าความยาวคลื่นมาก ความเร็วเสียงหาได้จาก


โดย

E คือ มอดุลัสของยัง
ρ (rho) คือ ความหนาแน่น
ดังนั้น ในเหล็ก ความเร็วของเสียงจะมีค่าประมาณ 5100 m/s

ในแท่งของแข็งหนา หรือ ขนาดด้านข้างของตัวกลาง ใหญ่กว่าความยาวคลื่น เสียงจะเดินทางได้เร็วกว่า ความเร็วของเสียงสามารถหาได้จากการแทนค่ามอดุลัสของยัง ด้วย มอดุลัสคลื่นหน้าราบ (en:plane wave modulus) ซึ่งหาได้จาก มอดุลัสของยัง และ อัตราส่วนของปัวซง (en:Poisson's ratio) ν


ดังนั้น ความเร็วของเสียง

.

สำหรับคลื่นตามขวางนั้น มอดุลัสของยัง E จะถูกแทนด้วย ค่ามอดุลัสของแรงเฉือน (en:Shear modulus) G

.
จะเห็นได้ว่า ความเร็วของเสียงในของแข็งขึ้นกับความหนาแน่น ของตัวกลางเท่านั้น โดยไม่ขึ้นกับอุณหภูมิ ของแข็งเช่น เหล็ก สามารถนำคลื่นด้วยความเร็วที่สูงกว่าอากาศมาก


[แก้] ความเร็วเสียงในของเหลว
ของเหลวจะมีความแข็งเกร็งต่อแรงอัดเท่านั้น โดยไม่มีความแข็งเกร็งต่อแรงเฉือน ดังนั้นความเร็วของเสียงในของเหลวหาได้โดย


โดย

K คือ มอดุลัสของการอัดแอเดียแบติก (adiabatic en:bulk modulus)

[แก้] ความเร็วเสียงในก๊าซ
ในก๊าซ ค่า K สามารถประมาณโดย


โดย

κ คือ ดัชนีแอเดียแบติก (en:adiabatic index) บางครั้งใช้สัญลักษณ์ γ
p คือ ความดัน
ดังนั้น ความเร็วเสียงในก๊าซสามารถคำนวณได้โดย


ในกรณี ก๊าซในอุดมคติ (en:ideal gas) จะได้

โดย

R (287.05 J/(kg·K) สำหรับอากาศ) คือ ค่าคงที่ของก๊าซ (en:gas constant) สำหรับอากาศ: ปกติในทางอากาศพลศาสตร์ ค่านี้หาจาก การหารค่าคงที่ของก๊าซสากล R (J/(mol·K)) ด้วย ค่ามวลโมล (en:molar mass) ของอากาศ
κ (kappa) คือ ค่า ดัชนีแอเดียแบติก (en:adiabatic index) (เท่ากับ 1.402 สำหรับอากาศ) บางครั้งเขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ γ
T คือ ค่าอุณหภูมิสัมบูรณ์ (เคลวิน)
(นัวตัน นั้นค้นพบวิธีการหาค่าความเร็วเสียงก่อนพัฒนาการของ อุณหพลศาสตร์ และได้ใช้การคำนวณแบบอุณหภูมิเสมอ (en:isothermal) แทนที่จะเป็นแบบแอเดียแบติก (en:adiabatic) ซึ่งทำสูตรของนิตันนั้นขาดตัวคูณ κ)


ที่ สภาพบรรยากาศมาตรฐาน (standard atmosphere):

T0 = 273.15 K (= 0 °C = 32 °F) ความเร็วเสียง 331.5 m/s (= 1087.6 ft/s = 1193 km/h = 741.5 mph = 643.9 นอต
T20 = 293.15 K (= 20 °C = 68 °F) ความเร็วเสียง 343.4 m/s (= 1126.6 ft/s = 1236 km/h = 768.2 mph = 667.1 นอต
T25 = 298.15 K (= 25 °C = 77 °F) ความเร็วเสียง 346.3 m/s (= 1136.2 ft/s = 1246 km/h = 774.7 mph = 672.7 นอต

ในกรณีของก๊าซในอุดมคติ ความเร็วเสียง c ขึ้นกับอุณหภูมิเท่านั้น โดยไม่ขึ้นกับความดัน อากาศนั้นเกือบจะถือได้ว่าเป็นก๊าซในอุดมคติ อุณหภูมิของอากาศเปลี่ยนแปลงตามระดับความสูง เป็นผลให้ความเร็วของเสียงที่ระดับความสูงต่างๆ นั้นแตกต่างกัน

ระดับความสูง อุณหภูมิ ม./วิ กม./ชม. ไมล์/ชม. นอต
ระดับน้ำทะเล 15 °C (59 °F) 340 1225 761 661
11,000 ม.–20,000 ม. -57 °C (-70 °F) 295 1062 660 573
29,000 ม. -48 °C (-53 °F) 301 1083 673 585

ใน ตัวกลางที่ไม่มีการกระจาย (non-dispersive medium) – ความเร็วเสียงไม่ขึ้นกับความถี่ ดังนั้นความเร็วในการส่งถ่ายพลังงาน และ ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเสียง นั้นมีค่าเท่ากัน ในย่านความถี่เสียงที่เราสามารถได้ยินนั้น อากาศมีคุณสมบัติเป็นตัวกลางที่ไม่มีการกระจาย โปรดสังเกตว่า CO2 ในอากาศนั้นเป็นตัวกลางที่มีการกระจาย และทำให้เกิดการกระจายสำหรับคลื่นเสียงความถี่สูง(28KHz)
ใน ตัวกลางที่มีการกระจาย (dispersive medium) – ความเร็วเสียงจะขึ้นกับความถี่ องค์ประกอบที่แต่ละความถี่จะเดินทางด้วยความเร็วเฟส (phase velocity) ที่แตกต่างกัน ส่วนพลังงานของเสียงจะเดินทางด้วยความเร็วที่ความเร็วกลุ่ม (group velocity) ตัวอย่างของตัวกลางที่มีการกระจาย คือ น้ำ


[แก้] ความเร็วเสียงในอากาศ
ความเร็วของเสียงในอากาศโดยประมาณหาได้จาก:


โดยที่ คือ อุณหภูมิ ในหน่วย องศาเซลเซียส ความแม่นยำในการประมาณในช่วงของอุณหภูมิในช่วง -20°C ถึง 40°C จะมีค่าความผิดพลาดไม่เกิน 0.2% ในช่วงอุณหภูมิสูงกว่า หรือ ต่ำกว่านั้นความเร็วของเสียงจะประมาณโดย


ผลของอุณหภูมิ
θ (°C) c (m/s) ρ (kg/m³) Z (N·s/m³)
−10 325.4 1.341 436.5
−5 328.5 1.316 432.4
0 331.5 1.293 428.3
+5 334.5 1.269 424.5
+10 337.5 1.247 420.7
+15 340.5 1.225 417.0
+20 343.4 1.204 413.5
+25 346.3 1.184 410.0
+30 349.2 1.164 406.6

เลขมัค คือ อัตราส่วนความเร็วของวัตถุ ต่อ ความเร็วเสียง ในอากาศ (หรือตัวกลางนั้น)

การเคลื่อนที่ของวัตถุใดๆด้วยความเร็วเท่ากับเสียง ณ ตำแหน่งนั้น จะเรียกว่าความเร็ว 1 มัค (Mach) ในทำนองเดียวกันถ้าเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 2 เท่าของความเร็วเสียงวัตถุนั้นก็จะมีความเร็วเป็น 2 มัค


[แก้] ตัวอย่างความเร็วเสียงในตัวกลางต่าง ๆ
ตารางด้านล่าง แสดงค่าความเร็วเสียงในตัวกลาง ที่อุณหภูมิ 20°C

ชนิดวัสดุ ความเร็ว (m/s)
อากาศ 343
น้ำ 1480
น้ำแข็ง 3200
แก้ว 5300
เหล็ก 5200
ตะกั่ว 1200

2 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

i


แบบทดสอบ ว40201 ฟิสิกส์ เรื่องอัตราเร็วและสมบัติของเสียง
คำชี้แจง
1. ข้อสอบมี 10 ข้อ
2. เมื่อทำเสร็จแล้วคลิก( click) ที่ ส่งคำตอบ โปรแกรมจะตรวจข้อสอบและบอกคะแนน
3. นักเรียนบันทึกคะแนนส่งผู้สอนด้วยความซื่อสัตย์
คำสั่ง จงคลิก( click) ที่วงกลมหน้าข้อที่ถูกสุดเพียงข้อเดียว


1. สิ่งใดต่อไปนี้มีผลต่อความเร็วเสียงในอากาศมากที่สุด
1 .ความดังของเสียง ุ
2 . ความดันบรรยากาศ
3 . อุณหภูมิของอากาศ
4 . ระดับความเข้มเสียง
2. จากการทดลองพบว่า อัตราความเร็วเสียงในบรรยากาศที่อุณหภูมิ 20 และ 35 องศาเซลเซียส เป็น 343 และ 352 m/s ตามลำดับ ถ้าอุณหภูมิเป็น 0 องศาเซลเซียส อัตราเร็วเสียงจะเป็นเท่าไร

1. 331 m/s
2 . 361 m/s
3 . 381 m/s
4 . ข้อมูลไม่พอหาไม่ได้

3. เมื่อสีไวโอลินด้วยความถี่ 1,100 เฮิรตซ์ ที่ 35 องศาเซลเซียส มีความยาวคลื่นที่เกิดขึ้นเป็นเท่าไร


1. 3.20 เมตร
2. 3.13 เมตร
3. 0.32 เมตร
4. 0.30 เมตร

4. ถ้าอุณหภูมิของอากาศเปลี่ยนไป 10 องศาเซลเซียส อัตราเร็วของเสียงเปลี่ยนไปเท่าไร

1. 0.6 m/s
2. 6 m/s
3. 341 m/s
4. ไม่มีข้อใดถูก


5. ชายคนหนึ่งสามารถได้ยินเสียงใน ช่วงความถี่ 20 - 20000 เฮิรตซ์ ถ้าขณะนั้น อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส จงหาความยาวคลื่นที่ยาวที่สุดที่ชายคนนี้สามารถได้ยิน

1. 0.02 เมตร
2. 0.10 เมตร
3. 5.00 เมตร
4. 17.30 เมตร

6. พิจารณาข้อความต่อไปนี้ แหล่งกำเนิดอาพันธ์คือ
1. แหล่งกำเนิดเสียง 2 แหล่ง ที่ให้เสียงที่มีความถี่เท่ากัน
2. แหล่งกำเนิดเสียง 2 แหล่ง ที่ให้เสียงที่มีความยาวคลื่นเท่ากัน
3. แหล่งกำเนิดเสียง 2 แหล่ง ที่ให้เสียงที่มีเฟสตรงกัน
ข้อใดถูก

1. ข้อ 1 เท่านั้น
2. ข้อ 2 เท่านั้น
3. ข้อ 1 และ 2
4. ข้อ 1 ,2 และ 3

7.เมื่อนักเรียนเดินผ่านห้องเรียนที่เปิดประตูอยู่ นักเรียนได้ยินเสียงเพื่อนคุยกัน
นักเรียน อธิบายได้ว่าปรากฏการณ์เช่นนี้ เป็นสมบัติข้อใดของเสียง

1. การแทรกสอด
2. การเลี้ยวเบน
3. การสะท้อน
4. การหักเห

8 .การใช้เรดาร์จับวัตถุบนท้องฟ้าที่ล่วงล้ำน่านฟ้าของไทย โดยใช้คลื่นเสียงอาศัยสมบัติของเสียงในข้อใด

1.การสะท้อน
2. การหักเห
3. การเลี้ยวเบน
4. การแทรกสอด

9. คลื่นเสียงที่มีความถี่ 1000 เฮิรตซ์ และมีอัตราเร็ว 320 เมตร/วินาที วัตถุมีขนาดอย่างน้อยเท่าใดจึงจะสะท้อนเสียงได้

1. น้อยกว่า 32 เซนติเมตร
2. เท่ากับ 32 เซนติเมตร
3. มากกว่า 32 เซนติเมตร
4. เท่ากับ 16 เซนติเมตร

10. ชายคนหนึ่งยืนห่างจากหน้าผาได้ยิงปืนขึ้น 1 นัดปรากฏว่าเขาได้ยินเสียงปืนสะท้อนกลับในเวลา 4 วินาที และเมื่อเขาเดิน เข้าไปอีกระยะหนึ่งและยิงปืนขึ้นอีก 1 นัด เขาได้ยินเสียงสะท้อนกลับมาภายใน 3 วินาที จงหาว่าเขาเดินเข้าไปหาหน้าผา กี่เมตร ถ้าในขณะนั้นอัตราเร็วของเสียงเป็น 343 เมตร/วินาที


1. 171.5 เมตร
2. 343.0 เมตร
3. 514.5 เมตร
4. 686.0 เมตร



BACK



Unknown กล่าวว่า...

192