อนุภาคอัลฟา



Democritus นักปรัชญาผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมือง Abdera ในประเทศกรีซ เมื่อ 2460 ก่อนได้เคยพยายามทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการอดอาหาร แต่แผนทำลายชีวิตของเขาต้องประสบความล้มเหลว เมื่อเขาได้กลิ่นขนมปังร้อน ๆ ทำให้รู้สึกหิวและเกิดความหวังที่จะมีชีวิต อยู่ต่อไป เขาได้ตั้งคำถามที่สำคัญมากกว่ากลิ่นขนมปัง โชยมาสู่จมูกเขาได้อย่างไร

หลังจากที่ได้นึกคิดหาคำตอบเป็นเวลานาน Democritus ก็ได้ตั้งสมมติฐาน ขึ้นมาว่าสสารทุกชนิดในจักรวาล ประกอบด้วยอนุภาคที่เล็กที่สุดที่เรียกว่า อะตอม (atom) อันเป็นคำในภาษากรีกที่แปลว่าแยกไม่ได้ และอะตอมของขนมปังนี้เองที่ได้หลุดหายไปในอากาศ โชยมาสู่จมูกเขา

อันความคิดที่ว่า มนุษย์เราไม่สามารถแบ่งแยกอะตอมได้อีกแล้ว ได้เป็นความรู้ ที่ผู้คนพากันเชื่อมั่นและถือมั่นเป็นเวลานานกว่า 2,000 ปี

จนกระทั่ง E.Rutherford ได้ทดลองยิงอนุภาคอัลฟา (alpha) ผ่านแผ่นทองคำเปลวบาง ๆ แล้วได้ข้อสรุปว่า อะตอมประกอบด้วยส่วนที่เป็นแกนกลาง ซึ่งเรียกว่านิวเคลียส (nucleus) และอิเล็กตรอน (electron) ที่โคจรอยู่รอบนิวเคลียส โลกจะรู้ว่าอะตอมนั้นจริงๆ แล้วแบ่งแยกได้ !

เมื่อวิทยาศาสตร์ได้วิวัฒนาการขึ้นเราก็มีความรู้เพิ่มขึ้น ๆ ว่า นิวเคลียสของอะตอมยังประกอบด้วยอนุภาคที่เล็กลงไปอีก คือโปรตอน(proton) ที่มีประจุบวกและนิวตรอน(neutron) ที่เป็นกลาง คือไม่มีประจุบวกหรือลบใด ๆ

หลังจากที่ได้มีการพบนิวตรอนแล้วเป็นเวลานานร่วม 40 ปีที่คนส่วนมากคิดว่าโปรตอนและนิวตรอนเป็นอนุภาค ที่เล็กที่สุดของ สสาร แต่ในปี พ.ส. 2503 นั่นเอง J.Friedman , H. Kendall และ R. Taylor ได้ใช้เครื่องเร่งอนุภาค (accelerator) ยิงอิเล็กตรอนพลังงานสูงให้พุ่งชนโปรตอน ผลการทดลองของเขาทั้งสาม ได้แสดงให้เรารู้ลึกล่วงไปอีกระดับหนึ่งว่า โปรตอนนั้นยังประกอบด้วยอนุภาคที่เล็กกว่าลงไปอีก คือ ควาร์ก(quark)

ไม่มีความคิดเห็น: