หลักการเขียนข้อสอบ
เนื่องจากสถานศึกษา กศน. อำเภอ จะต้องจัดทำข้อสอบปลายภาคเรียนที่ 2/2551 ส่งให้สำนักงาน กศน. เพื่อพิจารณาการจัดทำชุดข้อสอบสำหรับภาคเรียนที่ 2/2551 ต่อไป ดังนั้น กลุ่มพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน จึงเขียนหลักการเขียนข้อสอบ ซึ่งเป็นหลักการทั่ว ๆ ไปให้สถานศึกษา ซึ่งมีครู ศรช. จำนวนมากที่ไม่ได้จบทางครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์ ได้ศึกษาเพื่อเป็นความรู้พื้นฐาน สำหรับช่วยพัฒนาในโอกาสต่อไป
หลักการเขียนข้อสอบเลือกตอบ
พรทิพย์ กล้ารบ
ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน
ข้อสอบเลือกตอบ มีส่วนประกอบ 2 ประการ คือ
1. ส่วนที่เป็นคำถาม (Stem)
2. ส่วนที่เป็นตัวเลือก (Choices) ประกอบด้วย ตัวถูก และตัวลวง ตัวเลือก อาจเป็นคำ วลี ประโยค จำนวน สัญลักษณ์ กราฟ รูปภาพ แผนที่ แผนภูมิ ฯลฯ
รูปแบบของข้อทดสอบเลือกตอบ
ข้อทดสอบแบบเลือกตอบ นิยมใช้กันอยู่ 3 แบบ คือ
1. ตัวอย่าง 1. สิ่งใดไม่เป็นรูปเรขาคณิต ก. ดินสอ ข. ยางลบ ค. วงเวียน ง. ไม้บรรทัด
แบบคำถามเดี่ยว เป็นคำถามเดียวพร้อมทั้งตัวเลือกจบสมบูรณ์ในข้อนั้น ๆ โดยแต่ละข้อแยกกันอย่างอิสระ เมื่อขึ้นข้อใหม่ก็มีคำถามและตัวเลือกชุดใหม่
2. คำถามแบบสถานการณ์ มีการกำหนดสถานการณ์มาให้ ซึ่งอาจจะเป็นโคลง กลอน ข้อความ ตารางรูปภาพ แผนภูมิ ผลการทดลองตอนหนึ่งตอนใด ฯลฯ แล้วให้ตอบคำถามมากกว่า 1 ข้อ โดยยึดสถานการณ์หรือข้อความนั้นเป็นหลักในการตอบคำถาม
ตัวอย่าง คำชี้แจง : จงตอบคำถามข้อ 1 ถึง 2 โดยใช้ข้อความต่อไปนี้ "ท่านเจ้าขาฉันพาลูกมาบวช ช่วยเด็กสวดสอนให้เป็นแก่นสาร" 1. คำว่า "ท่าน" หมายถึง ก. ผู้มีอายุ ข. ผู้ทรงศีล ค. ผู้มีพระคุณ ง. ผู้ปกครอง 2. ต้องการให้ผู้ใดเป็นแก่นสาร ก. ฉัน ข. ลูก ค. ท่าน ง. พระ
3. คำถามประเภทตัวเลือกคงที่ เป็นการกำหนดตัวเลือกคงที่ โดยกำหนดตัวเลือกไว้ให้ชุดหนึ่ง แล้วตั้งคำถามหลาย ๆ ข้อ โดยให้เลือกคำตอบจากตัวเลือกเท่านั้น
ตัวอย่าง คำชี้แจง : ตั้งแต่ข้อ 1 – 3 ให้พิจารณาว่า ข้อความที่พิมพ์ตัวหนาในแต่ละข้อ ก. นามวลี ข. วิเศษวลี ค. บุพบท ง. สันธานวลี 1. ผู้หญิงแต่งชุดสีน้ำเงิน เป็นน้าของฉัน 2. กระดาษแผ่นนี้ ใช้ห่อของขวัญนะค่ะ 3. ฉันถีบจักรยานไปโรงเรียนทุกเช้า
เป็นวลีชนิดใดจากตัวเลือกต่อไปนี้
หลักการสร้างข้อทดสอบแบบเลือกตอบ
1. ควรเขียนคำถามให้เป็นประโยคคำถามที่สมบูรณ์
ตัวอย่าง ไม่ดี : เหงือกปลาทำหน้าที่คล้าย ก. ไต ข. ปอด ค. สมอง ง. หัวใจ ดีขึ้น : เหงือกปลาทำหน้าที่คล้ายอะไรของคน ก. ไต ข. ปอด ค. สมอง ง. หัวใจ
2. ควรเขียนตัวเลือกให้มีลักษณะเป็นเอกพันธุ์ (homogeneous)
ตัวอย่าง ไม่ดี : เมืองหลวงของประเทศอังกฤษชื่ออะไร ก. โรม ข. ปารีส ค. ลอนดอน ง. แยงซีเกียง ดีขึ้น : เมืองหลวงของประเทศอังกฤษชื่ออะไร ก. โรม ข. ปารีส ค. มอสโค ง. ลอนดอน
3. ควรมีคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียว
ตัวอย่าง ไม่ดี : สิ่งใดไม่เข้าพวก ก. ไข่ ข. นม ค. ข้าว ง. ปลา ดีขึ้น : สิ่งใดไม่ใช่อาหารประเภทโปรตีน ก. ไข่ ข. นม ค. ข้าว ง. ปลา (คำตอบอาจจะเป็นข้อ 3 เพราะเป็นสัตว์น้ำหรืออาจจะเป็นข้อ ค เพราะคุณค่าของอาหารเป็นอาหารจำพวกแป้งหรืออาจจะเป็นข้อ ข เพราะเป็นของเหลว)
4. เขียนตัวเลือกให้เป็นอิสระออกจากกัน คือ อย่าให้ตัวถูกและตัวลวงครอบคลุมเหลื่อมทับกัน
ตัวอย่าง ไม่ดี : ปัจจุบันพลเมืองของประเทศไทยมีประมาณกี่ล้านคน ก. น้อยกว่า 45 ล้าน ข. น้อยกว่า 53 ล้าน ค. มากกว่า 45 ล้าน ง. มากกว่า 53 ล้าน ดีขึ้น : ปัจจุบันพลเมืองของประเทศไทยมีประมาณกี่ล้านคน ก. น้อยกว่า 40 ล้าน ข. ระหว่าง 40 – 45 ล้าน ค. ระหว่าง 46 – 50 ล้าน ง. มากกว่า 50 ล้าน
5. หลีกเลี่ยงคำถามที่เป็นประโยคปฏิเสธซ้อนปฏิเสธ
ตัวอย่าง ไม่ดี : ถ้าคนไม่รับประทานไขมันร่างกายจะไม่มีอะไร ก. เกลือแร่ ข. ไขสันหลัง ค. พลังความร้อน ง. แรงกล้ามเนื้อ ดีขึ้น : ไขมันช่วยร่างกายด้านใด ก. เพิ่มเกลือแร่ ข. บำรุงไขสันหลัง ค. เพิ่มพลังความร้อน ง. เพิ่มสมรรถภาพกล้ามเนื้อ
6. อย่าให้คำถามและตัวเลือกแนะคำตอบซึ่งกันและกัน
ตัวอย่าง ไม่ดี : กระเพาะอาหารมีหน้าที่อะไร ก. ย่อยอาหาร ข. สูบฉีดโลหิต ค. ระบายอากาศ ง. หายใจเข้าออก ดีขึ้น : กระเพาะอาหารมีหน้าที่อะไร ก. ดูดอาหาร ข. ย่อยอาหาร ค. เก็บอาหาร ง. ถ่ายเทอาหาร
7. เขียนคำถามโดยใช้ข้อความสั้น ๆ แต่ได้ใจความสมบูรณ์
ตัวอย่าง ไม่ดี : เขาเป็นคนไทย ไม่ใช่คนต่างชาติ จึงควรมีมารยาทอย่างไร ก. การไหว้ ข. การกอด ค. การจับมือ ง. การโอบไหล่ ดีขึ้น : ข้อใดเป็นการแสดงมารยาทการทักทายแบบไทย ก. การไหว้ ข. การกอด ค. การจับมือ ง. การโอบไหล่
ข้อใดเป็นมารยาทการทักทายอย่างไทย
8. ระวังอย่าให้ตัวเลือกบางตัวถูกกำจัดออกไปได้โดยไม่ต้องอาศัยความรู้ในเรื่องนั้น
ตัวอย่าง ไม่ดี : ข้อใดเป็นวีรสตรีไทย ก. คุณหญิงโม ข. นางนพมาศ ค. ท้าวแสนปม ง. พระยาพิชัยดาบหัก ดีขึ้น : ข้อใดเป็นวีรสตรีไทย ก. นางเสือง ข. คุณหญิงโม ค. ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ง. คุณหญิงแสงเดือน
9. ระวังอย่าให้คำถามข้อแรกแนะคำตอบข้างหลัง
ตัวอย่าง ข้อแรก : คุณหญิงโมเป็นวีรสตรีสมัยใด ก. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ข. สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ค. สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ง. สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ข้อหลัง : ข้อใดเป็นวีรสตรีไทย ก. นางเสือง ข. คุณหญิงโม ค. ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ง. คุณหญิงแสงเดือน
10. ควรจัดเรียงตัวเลือกตามลำดับระยะเวลาและปริมาณ
ตัวอย่าง ไม่ดี : เราควรฆ่าเชื้อโรคในน้ำนมด้วยการอุ่นให้ร้อนกี่องศา ก. 70 องศา ข. 50 องศา ค. 80 องศา ง. 60 องศา ดีขึ้น : เราควรฆ่าเชื้อโรคในน้ำนมด้วยการอุ่นให้ร้อนกี่องศา ก. 50 องศา ข. 60 องศา ค. 70 องศา ง. 80 องศา
11. ถ้าตัวเลือกมีข้อความยาวไม่เท่ากัน ควรเรียงลำดับตัวเลือกที่มีข้อความสั้นไปหาตัวเลือกที่มีข้อความยาว
ตัวอย่าง ไม่ดี : มัชฌิมเลขคณิตเป็นค่าในการวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง ก. การกระจาย ข. ความถี่ ค. คะแนน ง. การพยากรณ์ ดีขึ้น : ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานใช้วัดอะไร ก. ความถี่ ข. คะแนน ค. การกระจาย ง. การพยากรณ์
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเป็นค่าในการวัดอะไร
12. ข้อสอบควรถามในสิ่งที่ดี มีประโยชน์และสร้างสรรค์ เพื่อช่วยให้ผู้ตอบได้พบตัวอย่างที่ดี และเกิดค่านิยมที่ดีต่อสิ่งนั้น
ตัวอย่าง ไม่ดี : การตกเป็นเมืองขึ้นของชาติอื่นให้ประโยชน์ในด้านใด ก. ได้ใช้ภาษาของชาตินั้น ข. ส่งสินค้าไปขายยังชาติอื่นได้ ค. ปลอดภัยจากการรุกรานของชาติอื่น ง. ผู้นำของชาตินั้นมาเยี่ยมเยียนเสมอ ดีขึ้น : การเป็นประเทศอิสระไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของชาติอื่นดีอย่างไร ก. มีการซื้อขายอาวุธได้มากขึ้น ข. มีวัฒนธรรมที่เป็นของตนเอง ค. มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ง. มีอิสรภาพไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับชาติอื่น
13. ควรเขียนแบบฟอร์มของคำถามให้เป็นระเบียบและอ่านง่าย คำถามและตัวเลือกไม่ควรอยู่บนบรรทัดเดียวกัน หรืออยู่คนละหน้า
ตัวอย่าง ไม่ดี : ส่วนใดของพืชใช้ปรุงอาหาร ก. ใบ ข. ดอก ค. ราก ง. ลำต้น ดีขึ้น : ส่วนใดของพืชใช้ปรุงอาหาร ก. ใบ ข. ดอก ค. ราก ง. ลำต้น
14. ไม่ควรใช้ตัวเลือกประเภท "ผิดทุกข้อ" หรือ "ไม่มีข้อใดถูก" หรือ "ถูกทุกข้อ" หรือ "ถูกหมด"
15. ไม่ควรใช้คำว่า เท่านั้น ทั้งหมด ทุก ๆ เสมอ แน่นอน ฯลฯ กับตัวลวง เพราะจะทำให้เห็นผิดเด่นชัดเกินไป
--------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น