คุณจะคิดถึงใครเมื่อคุณเศร้า
มีชายคนหนึ่ง รักผู้หญิงสองคนพร้อมๆ กัน
และไม่รู้ว่ารักใครมากกว่ากัน
มีคนสอนว่า เมื่อคุณมีเรื่องสุขใจ
ใครกันเล่าเป็นคนแรก ที่คุณคิดจะบอก?
คนที่คุณคิดถึงก่อนคนแรก แท้จริงคือ คนที่คุณรักมากกว่า(หน่อย)
ไม่.. นี่ไม่ใช่วิธีเดียวที่จะพิสูจน์ความรัก
เวลาที่คุณมีเรื่องทุกข์ใจ ใครกันเล่าที่คุณ คิดถึงก่อน?
คนที่คุณคิดถึงก่อนนั่นแหละคือ คนที่คุณรักมากกว่า หากคนที่คุณคิดถึงก่อนทั้งเวลาสุข และทุกข์คือ คนๆ เดียวกัน
นั่นคือสิ่งที่วิเศษสุด
แต่หากว่าเป็นคนละคนกัน
เราแนะนำให้คุณเลือก
คนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณ เวลาคุณมีเรื่องทุกข์ร้อนใจ
ชีวิตคนเราทุกข์มากกว่าสุข เวลาคุณมีความสุข
มีคนมากมายที่พร้อมจะแบ่งปันความสุขกับคุณ
ไม่เพียงแต่เฉพาะแฟนสุดที่รัก แม้กระทั่งเวลามีความสุข
คุณยังสามารถอยู่ตัวคนเดียวได้
แต่ไม่ใช่จะทุกคนที่พร้อมจะแบ่งปันความทุกข์ของคุณ
คนที่คุณพร้อมแบ่งปันความทุกข์ด้วย
แท้จริงคือ คนที่คุณต้องการมากที่สุดและอยากอยู่ใกล้ชิดมากที่สุด
ในทางกลับกัน คนที่คิดถึงคุณเวลามีความสุข
และไปหาผู้อื่นเวลามีความทุกข์ เป็นคู่รักที่ไม่มั่นคงเอาเสียเลย
เพราะเขาคนนั้นไม่คิดจะให้คุณเป็นคู่รัก
ที่อยู่ร่วมทุกข์สุขด้วยตลอดชีวิต
เราคงดีใจถ้าหากคนที่เรารัก
คิดถึงเราก่อนในเวลาที่เขามีความสุข
แต่ถ้าอยากอยู่ใกล้ชิดเราเวลาที่เขามีความทุกข์เศร้า
พร้อมให้เราเห็นตัวเขาในสภาพที่เขาอ่อนแอทุกข์ร้อน
เราเชื่อว่าเราต้องมีความสำคัญมากๆ ในสายตาของเขา
.............
ในเวลาที่คุณมีความทุกข์เศร้า คุณคิดแบ่งปันกับใคร?
อย่างน้อยวันนี้เราทำดีที่สุด...
แม้ว่าเวลาของความผูกพัน มันอาจจะสั้น จนเหมือนเราไม่ได้รักกัน
และตอนนี้ความห่างไกลก็ได้ใกล้เรามากขึ้นเพื่อที่จะแทรกให้เราห่างกันไปทุกที......
เธออยากรู้ไหม ว่าทำไมเราต้องห่างกัน ฉันพยายามหาคำตอบให้กับตัวเอง จนวันแล้ววันเล่า ฉันก็ยังไม่เข้าใจ
หรืออาจเป็นเพราะเวลาของเธอกับฉันได้หมดลงแล้ว คนบนฟ้าคงกำหนดให้เรามาพบกันแค่เท่านี้
และเค้าก็ทำให้เราจากกัน มันไม่ยุติธรรมเลยที่เค้าทำให้ฉันรักเธอ ทำไมเค้าถึงไม่ทำให้ฉันแค่รู้จักเธอเท่านั้นนะ
ถ้าฉันรู้อะไรล่วงหน้า ว่ามันจะเป็นแบบนี้ สาบานได้ ฉันจะไม่รักเธอแม้สักนิดเดียว
มันช่างทรมานเหลือเกินกับความรู้สึกที่ฉันเป็น ฉันเสียใจที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้.......
การสูญเสียครั้งนี้ฉันจะเรียกร้องจากใคร
(บางทีคนเราก็ต้องการระยะห่าง...เพื่อทบทวนความรู้สึกตัวเอง ว่าเรารู้สึกอย่างไรกับเค้าคนนั้น)
มันช่วยฉันได้มาก แล้วตอนนี้ฉันคิดว่าสิ่งต่างที่ผ่านมา ก็เป็นคำตอบที่ดีสำหรับฉัน
ฉันคงเข้าข้างตัวเองที่คิดไปว่า..... อาจเพราะ คนบนฟ้าอาจกำลังสงสัย เราสองคนอยู่ ว่าเรารักกันจริงหรือเปล่า
เค้าเลยทดสอบให้เราห่างกัน แยกเราไปคนละทาง เพื่อทดสอบว่า ถ้าเราต้องใช้ชีวิตเพื่อรอคอยใครบางคน
ที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ช่วงเวลาที่รอนั้น จะเป็นตัววัดความรู้สึก และพิสูจน์ความแข็งแรงของความรัก
วัดการกระทำ ความเสมอต้นเสมอปลาย กับการอดทนด้วยเงื่อนไขเวลาของการห่างไกล
เมื่อถึงเวลานั้น เราจะได้รู้ว่าเราได้เลือกถูกคนหรือไม่ และมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
กับการต้องทำหัวใจไม่ให้หวั่นไหวกับอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ
ที่คอยเข้ามาทำให้ไหวหวั่นกับสิ่งต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปทุกๆ วัน
ความห่างไกลจึงเหมือนเป็นตัววัดปริมาณความรักของเรา
ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับวันพรุ่งนี้ เราจึงกลัวที่จะเผชิญหน้ากับมัน
เราคิดไปล่วงหน้า ว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ เราไม่สามารถบังคับให้ใครมารักเราได้
และถ้าเธอจะอยู่ หรือเธอจะไป จะรักกันมากขึ้น หรือน้อยลง ก็จะเป็นเพราะเราสองคน
คงไม่ใช่ความต้องการของฉันฝ่ายเดียว หรือเธอฝ่ายเดียว
(คงจะไม่มีอะไรที่จะน่ากลัวและเลวร้ายไปกว่า การยอมรับความรู้สึกตัวเอง อีกแล้ว........ใช่มั๊ย)
วันนี้ฉันจึงมีความสุข ถึงแม้ว่าเราจะห่างกัน แต่อย่างน้อย ฉันก็ไม่เสียใจ ในสิ่งที่ฉันทำ
แต่ฉันคงจะเสียใจแน่ๆ หากฉันไม่ได้ทำ
นั่นก็คือ การได้รักเธอ.......มีวันที่เลวร้าย มีวันที่สวยงาม มีวันที่ว่างเปล่า สุขก็อยู่กับเราไม่นาน ทุกข์ก็อยู่กับเราไม่นาน
สุขเคยแวะผ่านมาแล้วก็ไป ทุกข์ก็เช่นเดียวกัน วันนี้ฉันมีความทรงจำที่ดี ระหว่างเรา
ฉันจึงมีเรื่องให้นึกถึงวันดีดีมากมาย และฉันก็ได้ยิ้มให้กับความทรงจำนั้น
จน ณ ตอนนี้ จนถึงวันนี้ จึงรู้แล้วว่า ยังมีเรื่องราวอีกมากมายให้เราทั้งสองต้องเรียนรู้ และเผชิญหน้ากับมัน
อาจจะลำบาก เหน็ดเหนื่อย แต่เชื่อฉันนะ ว่าสักวันความฝันเราต้องเป็นจริง
ฉันมีความหวังตราบที่ฉันยังมีลมหายใจ เพราะความหวังของฉันนั้นมันเป็นสิ่งที่มีค่า
ทำให้ฉันมีจุดมุ่งหมาย เผื่อสักวันอาจจะได้เป็นดังหวัง เมื่อฉันเป็นคนเริ่มต้น ฉันก็อยากจะเป็นคนทำให้มันจบ
ถึงแม้ว่าการได้รักคือการเสี่ยงที่จะไม่ได้รับรักตอบแทน การตั้งความหวังคือการเสี่ยงที่จะเจ็บปวด
การพยายามคือการเสี่ยงที่จะล้มเหลว แต่ยังไงก็ต้องเสี่ยง เพราะสิ่งที่น่าอันตรายที่สุดถ้าชีวิตนี้ ฉันไม่เสี่ยงอะไรเลย
ถ้า”รัก” เริ่มต้นที่คนสองคน ผูกพันกัน เข้าใจกัน ต่างต้องการอยากที่จะร่วมทางเดินด้วยกัน
วันนี้ฉันก็อยากจะให้เรา “ไว้ใจ” กัน เพราะแน่นอน เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น
แต่ถ้าวันนี้เราทำดีที่สุดแล้ว ก็คงไม่ต้องกลัวอะไรวันต่อไปของเราก็คงจะดีเอง...
และฉันก็พอใจ กับสิ่งที่ได้รับในเวลานี้ ฉันมีความสุขที่ได้รัก รักในสิ่งที่ฉันเป็น
รักในทุกความรู้สึกดีดีที่ได้รับจากทุกคน รักในสิ่งที่ตัวเองทำ
และฉัน....................รักในสิ่งที่หัวใจฉันต้องการ....สำหรับฉันจึงไม่ต้องการอะไรมากมาย
ฉันรู้สึกเหมือนกับตัวเองช่างเป็นผู้หญิงโชคดีเหลือเกิน ที่ฉันโชคดีที่มีคนที่รักฉัน
และฉันก็รักเค้า กับผู้ชายอย่างเธอ ทั้งที่บางครั้งเธอเองก็อาจคิดว่าตัวเองก็ไม่ใช่คนดีอะไร
แต่อย่างน้อยวันนี้เธอดีกับฉัน ฉันจึงไม่สนใจว่าเธอจะเป็นอย่างไร และ ถึงแม้ว่าเรื่องราวระหว่างเรา
อาจจะไม่เป็นดังที่เราหวังเลยสักนิดเดียว หรืออาจจะไปไม่ถึงฝัน...................
“ฉันรักเธอ” และอยากให้เธอมีความสุข แม้ว่าความสุขนั้น จะไม่ได้หมายถึงว่ามีฉันอยู่ด้วยก็ตาม
และหากความจริงเราต้องจากกันไปจริงๆ ฉันรับประกันได้เช่นกันว่า..
ถ้าวันนี้ฉันไม่ขอร้องให้เธอมาเป็นของฉัน ฉันจะต้องเสียใจ ไปจนตราบชีวิตฉันจะหาไม่
เพราะฉันรู้หัวใจฉันดีว่า เธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ในใจฉันตลอดมา
อยากบอกทุกคนว่า ไม่มีใครได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการทั้งหมด
ไม่มีใครที่เกิดมาสมบูรณ์แบบ วันนี้เราควร ”ปล่อยวาง” เพื่อให้หัวใจไม่บอบช้ำนานเกิน
จนกลายเป็นแผลในใจที่คอยทำร้ายตัวเอง....
มีความสุขกับความเป็นจริงวันนี้เพราะพรุ่งนี้เราอาจไม่มีโอกาส...............
ความรัก ความจริงใจ ความประทับใจ ความผูกพัน
กาลครั้งหนึ่ง...
มีเด็กชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า 'ความรัก'
ความรักไม่รู้ว่าเขาเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เขาไม่เคยเห็นผู้ให้กำเนิด
'ความรัก' เกิดมาท่ามกลางความมืดมนและว่างเปล่า...
ความรักเฝ้าตามหาอะไรบางอย่างที่ทำให้ตัวเขารู้สึกไม่เหน็บหนาว
เขาอ้างว้าง เขาสับสน เขาอยู่คนเดียวมานานเกินพอ...
...เขารู้สึกว่าอะไรยังขาดหายไป
ความรักเริ่มออกเดินทางบนถนนสายที่ไม่มีจุดเริ่มต้น...
ถนนสายนี้ทอดยาวไกลไปในความมืดมิด...และดูท่าไม่มีที่สิ้นสุด
ความรักเริ่มท้อใจ...เมื่อไหร่เขาจะเจอเพื่อนร่วมทางเสียที...
แสงสว่างเล็กๆ กระพริบพราวท่ามกลางความมืดรอบกาย แล้วหายไป...
ความรักดีใจมาก ในที่สุดก็มีแสงสว่างจุดขึ้นมาแล้ว
เขาเดินเข้าใกล้...และพบกับใครคนหนึ่งที่นั่งกอดเข่าอยู่เดียวดาย
...เธอคนนั้นคือ 'ความจริงใจ'...
ความจริงใจบอกกับความรักว่าเธอถูกสั่งให้มาเฝ้ารอใครสักคน...
เธอนั่งอยู่ตรงนี้นานแล้ว...นานจนแทบจะหมดหวัง...
เธอเห็นแสงสว่างอยู่ไกลๆ...และความรักก็เข้ามาหาเธอ
ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน...ไม่ต้องให้มีใครบอกเขาก็รู้ พวกเขาทั้งคู่ต้องก้าวไปด้วยกัน...
ความรักส่งมือให้ความจริงใจจับเอาไว้ แล้วพวกเขาก็เริ่มก้าวเดิน...
ก้าวที่ทั้งสองเดินไปค่อยๆย่างอย่างช้าๆ...ไม่รีบร้อน
อาจจะมีมรสุมพัดกระหน่ำเข้ามาบ้างแต่มือที่จับกันเอาไว้ไม่เคยปล่อย... ผ่านลมที่โหมกระหน่ำ
ผ่านความมืดและความเหน็บหนาว... ผ่านหลายๆสิ่งมาด้วยกัน
และแล้วก็มีเด็กน้อยๆสองคนจูงมือกันเข้ามา...
เด็กน้อยคนหนึ่งที่ดูบอบบางและอ่อนแอราวกับจะล้มลงได้ทุกเมื่อ
แต่อีกคนกลับดูเข้มแข็ง...และคอยปกป้องอีกคนเสมอ
พวกเขาแนะนำตัวว่าเขาคือ 'ความประทับใจ' และ 'ความผูกพัน'
ความรักและความจริงใจอุ้มเด็กทั้งสองมาแล้วร่วมเดินบนเส้นทางไปด้วยกัน...
เส้นทางที่เคยมืดสนิทเริ่มมีแสงจางๆส่องรำไร... ถนนสายที่ดูยาวไกลไม่สิ้นสุด ตอนนี้กลับเห็นปลายทางสว่างริบหรี่...
...ในใจของพวกเขาเกิดความหวัง...เส้นทางที่พวกเขารอคอยใกล้เข้ามาถึงแล้ว
แต่แล้ว! ก็มีเงาทะมึนมาทาบทับ เงาปีศาจสองตัวโอบล้อมพวกเขาเอาไว้
เจ้าปีศาจแนะนำตัวเองว่ามันคือ 'ความแตกร้าว' และ 'ความเศร้า'
...พวกมันต้องการจะจับความรักไป...
เด็กน้อยที่ชื่อความประทับใจร้องไห้จ้า มันกลัวเหลือเกิน ยิ่งร้องไห้ ร่างบอบบางนั้นยิ่งจางลงราวกับจะสลายไป...
ความผูกพันโผเข้ากอดความประทับใจแน่น... เขาค่อยๆปลอบจนความประทับใจหยุดสะอื้น...
ร่างกายของเด็กน้อยนั้นกลับมามีรูปร่างดังเดิม...
ในขณะที่ปีศาจทั้งสองตนมีสีหน้าตื่นกลัว...ร่างของมันเองที่กำลังสลายไปช้าๆ
ความรักกับความจริงใจเห็นดังนั้นจึงกอดเด็กน้อยทั้งสองแน่น ร่างทั้งสี่กอดกันกลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียว ความแตกร้าวและความเศร้ากรีดร้อง...
...แล้วมันก็สลายไป
ทั้งสี่ส่งยิ้มให้กัน...พวกเขาทำสำเร็จแล้ว!
ทันใดนั้นเอง... แสงสว่างก็แยงจ้าไปทั่ว... ความรักรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังลอยขึ้นช้าๆ...
ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณู...
เสียงปริศนาที่มีชื่อว่า 'ความสุข' ดังก้อง...
"พวกเจ้าเข้าใจแล้วใช่ไหม? ว่าทำไมข้าถึงให้พวกเจ้ามาเดินทางร่วมกัน...
...นับตั้งแต่วันนี้ไป...พวกเจ้าจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ข้าจะให้ชื่อของพวกเจ้าว่า 'ความสัมพันธ์' "
...ทั้งสี่ถูกรวมเป็นคนใหม่คนเดียวกัน...ร่างกายที่ดูแข็งแกร่งและมั่นคงกว่าเดิม...และพร้อมเผชิญกับทุกปัญหา...
พวกเขาเข้าใจแล้วว่า...เขาเกิดมาทำไม...
มีความรัก ความจริงใจ จึงเกิดความประทับใจ แล้วกลายเป็นความผูกพัน
บางครั้งอาจจะมีปัญหาบางอย่างที่ทำให้เกิดความแตกร้าวและความเศร้า อาจจะทำให้ความประทับใจลดน้อยลง
แต่ความผูกพันก็ยังเหนี่ยวรั้งทุกอย่างเอาไว้...
...แต่สุดท้าย ทุกอย่างจะผ่านไปได้ต้องมีพื้นฐานคือความรักและความจริงใจ... นี่แหล่ะค่ะ ความสัมพันธ์ของคนสองคน
ความรักเป็นวงกลม
ความรักเป็นวงกลม...หมุนให้รอบ...แล้วจะเข้าใจรักแท้
ความรักทำให้คนตาบอด มีคนพูดกันเยอะ...
อาจเป็นเพราะความรักในช่วงแรกมีแต่ความหวานชื่น
อะไรๆ เลยดูดีไปหมด...
ไม่มีอะไรที่ทำให้เราสองคนไม่พอใจซึ่งกันและกัน
เพราะความรัก...
มันสามารถกลบล่องรอยความขัดแย้งได้อย่างสนิทใจ
แต่เธอรู้มั้ยว่า...นั่นอาจเป็นกลอุบายของความรัก
ที่ปกปิดเบื้องหลังของมันไว้ไม่ให้เราได้รับรู้...
ให้เห็นเพียงด้านเดียว
เผลอๆ...เราก็ตกหลุมพลางของความรักเข้าให้แล้ว...
จนยากจะถอนตัว
และเมื่อถึงวันที่ความรัก...ค่อยๆ หันข้างให้เรา...
หรือหันหลังให้
เราจะค่อยๆ ค้นพบความรักในอีกแง่มุมหนึ่ง
ซึ่งเราไม่เคยเห็นมาก่อน
มันจะมาพร้อมความเจ็บปวด...
และก่อเกิดนิยามของคำว่า "รักนักมักมีทุกข์"
ในความเป็นจริง...360 องศาของความรัก
ก็เหมือนชีวิตมนุษย์เราหนึ่งคน...
ที่มีทั้งด้านบวกและด้านลบ
ผสมกลมกลืนกันไปในสัดส่วนที่ต่างกัน..
อยู่ที่ว่า..คนสองคนจะหมุนมันไปในทิศทางเดียวกันหรือเปล่า
หากต่างคนต่างแย่งกันหมุน..
ความรักก็มักจะทำให้คนสองคนเวียนหัว
แย่งกันหมุนไปคนละทิศคนละทาง..
และวันหนึ่งความรักก็ล้มครืนลงมา
...........
แต่หากทั้งสองคน..จัดสรรเวลาแบ่งกันผลักแบ่งกันรับ
และหมุนความรักไปในทางเดียวกัน..
คนสองคนก็จะเห็นความรักในทุกๆ ด้าน
และความรักอันนั้น..
ก็เป็นความรักที่สองคนนี้เท่านั้น.....
ถึงจะดูแลมันได้เข้าขากันที่สุด
ไม่แปลกอะไรเลย..
ถ้าเธอจะพบกับความเจ็บปวดของความรัก
อยู่ที่ว่า..
เธอจะทอดทิ้งมัน
หรือเธอจะยินดีต้อนรับมันต่างหาก
แอบรัก
ฉันชอบความรู้สึกของการได้ "แอบรัก" ใครซักคน
หนึ่งชีวิตของคนเราถ้าได้รู้สึกถึง... "ความรักแบบไม่ครอบครอง" บ้าง
ก็คงจะดีไม่น้อย โลกคงไม่วุ่นวายไม่ยื้อแย่งไม่ครอบครอง
และความรักก็คงจะไม่ "เห็นแก่ตัว" อย่างที่ดำเนินอยู่
ขึ้นชื่อว่า "แอบรัก" แล้วล่ะก็...
ฉันเชื่อว่ามันไม่ใช่อาการที่ต้องการจะเปิดเผยตัวไม่อยากให้ใครได้รู้ได้เห็น
ความสุขเกิดขึ้นได้ในมุมเงียบๆและปราศจากการครอบครอง
ความรักแบบเงียบกริบสอนให้คนปล่อยวาง และหัวใจอ่อนโยน
ไม่ปรารถนาอะไรมากไปกว่าการได้รัก
และมากที่สุดก็คงจะเป็นแค่ให้อีกฝ่ายได้รับรู้ว่า
..."รัก"…
เท่านั้นเองที่ความรักต้องการ...
คงเหมือนกับไม่ขีดไฟแอบหลงรักดอกทานตะวัน
สุดท้ายมันก็ต้องการแค่เพียงแค่ให้ดอกทานตะวันหันมองแสงอันน้อยนิดของมัน...
แม้จะเป็นแสงสุดท้ายที่ถูกจุดขึ้นเพื่อดับลงตลอดกาลก็ตาม
เชื่อไหม???...
ฉันเคยรู้จักคนๆนึงที่แอบรักใครอีกคนได้นานเป็นปีๆ
โดยไม่เคยแสดงตัวต่อความรักของเขา
หญิงสาวใช้โทรศัพท์เป็นสื่อแสดงความรู้สึกตลอดมา
ทุกคืน...เธอจะยกหูโทรหาเขา แม้บางครั้งด้วยคำพูดสั้นๆแค่ว่า
"นอนหลับฝันดี" เท่านั้นก็ตาม
ชายหนุ่มไม่เคยเห็นหน้าเธอ
ทั้งที่ความเป็นจริงนั้นเธออยู่รอบตัวเค้าตลอดเวลา
...เธอเคยเดินผ่านเขาใกล้กันแค่เอื้อมมือคว้า
แต่เขาไม่รู้จักเธอ...
...เธอเคยสบตาเขาแต่เขาไม่เห็นแววตาเธอ...
...เธอเคยยืนตรงหน้าเขาแล้ว(แอบ)ฟังเขาพูดคุยกับเพื่อนของเขา
แต่เค้าไม่ได้พูดกับเธอ...
ทั้งหมดเป็นความสุขของหญิงสาว...
"สุขที่ได้เห็นเขาโดยที่เขาไม่จำเป็นจะต้องเห็นเธอ"
การติดต่อของเค้าและเธอสิ้นสุดลง
ในวันที่ชายหนุ่มมีคนรักที่แสดงตัวอย่างชัดเจน
เค้าเลือกที่จะรักคนอื่นเพราะในความคิดของเค้า
...หญิงสาวไม่มีตัวตน...
หญิงสาวห่างออกมาไม่อนุญาตให้ตัวเองเข้าใกล้เค้าอีก
เธอคำนึงถึงความถูกต้องและ...ทุกอย่างย่อมมีเจ้าของเมื่อถึงเวลา
...ความรักของเธอบริสุทธิ์เกินกว่าจะทำร้ายใคร...
ในเมื่อชายหนุ่มเลือกที่ปักดอกไม้อื่นลงบนแจกันของเค้า
ต่อให้เธอสวยงามกว่าดอกไม้ดอกนั้นเพียงใดเธอก็ไม่อาจแสดงตัวได้...
แต่เธออนุญาตหัวใจให้รักเค้าได้เท่าเดิมและคงจะไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้
เพราะ "รักแท้" สอนให้เธอมีความสุขได้
แม้ "ไม่ได้เป็นเจ้าของ" หรือ "ถูกครอบครอง"
และ "รักแท้" นี่เองที่จะทำให้ดอกไม้อย่างเธอไม่มีวันแห้งเหี่ยว
"แม้ว่าเธอจะเป็นดอกไม้ไร้ชื่อ...
ที่ไร้แจกันตลอดไป...ก็ตาม"
http://www26.brinkster.com/skpcenter/love.html
ช่วย,ข้อสอบบรhttp://oopps.bloggang.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น