ใจของเป็นของนาย
นวนิยายนี้แต่งจากเรื่องจริงแอบอิงนวนิยายนิดหน่อย นวนิยายสำหรับผู้ชายที่มีความรักแท้
เชิญ
รับ
อ่าน
ได้
เลย
...... บทนำ
“ภูมิ” เด็กหนุ่มชื่อสั้นๆเพียงพยางค์เดียว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ทางด้านการศึกษาได้รับวุฒิการศึกษา ก็รีบหางานทำทันที ฟ้าสวรรค์เป็นใจ ให้โอกาสคนดี สอบบรรจุครูครั้งแรกก็ผ่าน เด็กหนุ่มไปติดต่อรายงานตัวกับทางโรงเรียนก่อนล่วงหน้า 1 เดือนก่อนที่จะเปิดเทอม พร้อมศึกษาพื้นที่ ประวัติความเป็นมาของโรงเรียนดังกล่าว ฟ้าสวรรค์เป็นใจ แต่ใยต้องแกล้งกัน ณ โรงเรียนแห่งนั้นไม่มีบ้านพักครูให้
“ภูมิ ไปพักบ้านครูไหมละ ครูมีห้องว่างห้องหนึ่ง เป็นบ้านชั้นเดียวเล็กๆ อยู่ติดๆกับบ้านครูนั้นแหละ” ครูดวงใจมีเมตตา เสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาที่เด็กหนุ่มกำลังประสบอยู่ นั้นคือ ที่พักที่สะดวกในการเดินทางมาทำงานนั้นเอง
“ภูมิ....เออ...ภูมิว่า ภูมิจะลองหาบ้านเช่าแถวนี่ดูครับผม..เกรงใจอาจารย์ครับ”
“ไม่ต้องหรอกภูมิ ไปพักบ้านครูนั้นแหละดีแล้วจะได้ทีคนช่วยดูแล ที่สำคัญเปลืองเงินเปล่าๆ อยู่ใกล้นี่เอง เดินไม่ถึงห้านาทีก็ถึงโรงเรียนแล้ว นะ...โอเคนะ” ครูดวงใจแสดงความช่วยเหลืออย่างจริงใจ พร้อมกับมีเสียงสนับสนุนสมทบจากคณะครูที่อยู่บริเวณในห้องธุรการ อีกหลายคน
ตอนที่ 1 บ้านหลังใหม
วันนี่เป็นวันแรกที่ภูมิขนข้าวของสำคัญไม่กี่ชิ้น เข้ามาพักในบ้านเล็กๆชั้นเดียว อย่างที่ครูดวงใจบอก บ้านชั้นเดียว สองห้องนอน บริเวณบ้านตกแต่งด้วยต้นไม้ ไม้ดอกไม้ประดับน่าอยู่มากมาย ภูมิสังเกตจากตัวบ้านที่ดูเหมือนกับว่ามีใครสักคนพักอยู่ที่นี่อยู่แล้ว เพราะข้างในบ้านสะอาดสะอ้าน ผ่านการทำความสะอาดดูแลเป็นอย่างดี
“ภูมิ ... ครูลืมบอกไปว่า บ้านหลังนี่ลูกชายครูชอบมานอนเล่น มานั่งทำงานที่นี่แหละ พี่เขาทำงานรับออกแบบบ้าน อาคาร ตึกรามบ้านช่อง นี่แหละ”
“ครับผม”
“พี่เขาชื่อ แซม... อายุมากกว่าภูมิ 3-4 ปีนี่แหละ แซมเป็นคนที่เก่งมากเลยนะ มีบริษัท อสังหาริมทรัพย์หลายบริษัท จ้างแซมออกแบบโครงการบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียมมากมายเลยละ” ครูดวงใจกล่าวถึงลูกชายตน อย่างภาคภูมิใจ
“แล้วภูมิมาพักที่นี่ พี่เขา..เออ..พี่แซมรู้ไหมครับ”
“ครูโทรศัพท์ไปบอกแล้วละ ไม่ต้องเกรงใจนะ พี่แซมเป็นคนง่ายๆ สบายๆ”
“ครับ” ภูมิพูดเสร็จก็ ถอนใจ ยังไงก็ตามภูมิเองก็ยังรู้สึกเกรงใจ และทราบซึ่งในพระคุณของคุณครูดวงใจคนนี้อยู่ดี
เขาเป็นใครลูกเต้าเหล่าใคร นิสัยเป็นเช่นใด เป็นคนดีหรือเปล่าครูดวงใจเองก็ไม่ทราบ ทั้งๆที่ไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงแต่ก็ยังมีน้ำใจ
นี้แหละคือน้ำใจของคนไทย ที่ปัจจุบันน้ำใจของคนไทย เพื่อนบ้านเรือนเคียงมีน้อยลง.....
หลังจากที่จัดข้าวของเสร็จ ครูดวงใจก็ขอตัวกลับไปทำธุระต่อ
“เดี่ยวครูไปก่อนนะ ยังไงก็คิดซะว่าบ้านหลังนี่เป็นของภูมิไปเลยนะจ๊ะ เออ ลืมบอกไปพี่แซมเขาไปเล่นบาส เย็นๆถึงกลับ”
“ขอบพระคุณครูดวงใจมากมากครับ”
“จ้า”
กว่าจะจัดข้าวของเสร็จ เล่นเอาเหงื่อแตกซิก เหนื่อยเหมือนกันนะนี่
“เดี่ยวไปอาบน้ำก่อนดีกว่า”
ภูมิอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ ก็รู้สึกสบายตัวมากขึ้น เลยมานั่งอ่านหนังสือที่บริเวณห้องรับแขก ที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกที่ค่อนข้างดีพอสมควร ขณะที่อ่านไปได้ครูหนึ่งสายตาก็ชำเลืองไปเห็นใครคนหนึ่งในรูปภาพ ในชุดครุยขณะที่กำลังเตรียมตัวเข้ารับพระราชทานปริญญา
“หน้าตายังกะพระเอกหนังแนะ”
ภูมิพูดคนเดียวในห้อง วางรูปนั้นวางลงที่ตำแหน่งเดิม แล้วหันมาสนใจกับหนังสือในมือต่อไป
รถจักรยานยนต์เวสป้าคันเท่ห์ ขับเข้ามาในบริเวณบ้าน แซมมักไปออกกำลังกายด้วยการเล่นบาสเก็ตบอลเป็นประจำ เขาถอดเสื้อกีฬาออก เปลือยกายท่อนบน อวดกล้ามเนื้อเครียดตึง บ่ากว้าง ตัวสูงสง่า หน้าท้องแบนราบเป็นลอนกล้ามเนื้อแข็งๆเป็นที่ถูกตาต้องใจสาวๆ มากมายแต่แซมกลับยังไม่คิดที่จะสนใจใครสักคน
ชายหนุ่มก้าวเข้ามาในบ้าน สายตาเหลือบไปเห็นร่างๆหนึ่ง นอนหลับในท่านอนที่อลังการมากมาย (เซกซี่)
ท่อนขาขาวนวล เรียวสวยราวกับแท่งเทียน แสงไฟในบ้าน ส่องแสงกระทบเข้ากับผิวพรรณของร่างที่นอนหลับอยู่
เผยให้ชายหนุ่มพึ่งประจักษ์รับรู้แก่สายตาเป็นครั้งแรกว่า ผิวสวย เป็นอย่างไร
เขาก้าวเข้าไปใกล้มากยิ่งขึ้น มองไปที่ใบหน้าก็ต้องตกใจอย่างมาก
“เฮ้ย.. ไหนแม่บอกว่ามีครูใหม่ ผู้ชายมาพักด้วยนี่หนา แล้วผู้หญิงคนนี่เป็นใคร”
แซมคิดในใจ ขณะที่มองไปยังใบหน้ามนต์ นอนหลับตาสนิท ขนตาหนาเป็นแพยาว ดวงหน้ารูปไข่จมูกโด่ง รับกับพวงแก้มป่องขาวเนียน ริมฝีปากสีชมพูอ่อนเต็มอิ่มระเรื่อ ลำตัวมีส่วนโค้งเว้าระหง ผู้หญิงคนนี้ไม่แต่งหน้า ไม่ตัดโกนคิ้วเหมือนหญิงคนอื่นๆ
แถมยังตัดผมสั้นซะด้วย ชายหนุ่มเหลือบตามองอย่างเพลิดเพลินโดยไม่รู้ตัว จนกระทั้งร่างที่หลับสนิทลืมตาขึ้นมา
“สวัสดีครับ พี่ใช่พี่แซมใช่ไหมครับ” ภูมิรีบลุกขึ้นมายกมือไหว้ สวัสดีชายหนุ่มที่ยืนจ่องมองตนอยู่
“เธอเป็นใคร” แซมไม่ได้ตอบคำถาม แต่กลับเป็นฝ่ายถามสวนกลับซะเอง จนอีกคนทำสีหน้างงงัน
“เธอที่ไหนครับ... ใครหรือครับ.. พี่หมายถึงผมหรือเปล่า” เขาหันหน้ามองซ้ายมองขวา สีหน้าบ่งบอกอย่างชัดเจนโดยไม่มีการเสแสร้งแต่อย่างไร ทำให้แซมเริ่มเอะใจอะไรขึ้นมาบางอย่าง
“อย่าบอกนะว่า เธอคือคนที่คุณแม่ บอกว่าจะมาพักที่นี่”
ภูมิพยักหน้าแทนคำตอบ เล่นเอาซะแซมใจหาย เพราะเคยมีผู้หญิงหลายคนที่จ่องจะจับชายหนุ่มไปครอบครอง
แซมมองสำรวจไปที่ดวงหน้าเนียนอีกครั้ง มีเค้าของความเป็นชายอยู่บ้าง แต่น้อยซะเหลือเกิน
“เธอ...เฮ้ย...นายเป็นกะเทยหรือเปล่า”
“ไม่ใช่ครับ”
ภูมิตอบคำถามที่ถามตรงๆ ซะเหลือเกินอย่างไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เพราะใครก็ตามที่ไม่พบคบเคยเห็น รู้จักภูมิ
มาก่อนมักจะเข้าใจผิดแบบนี้เสมอ มันไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะผู้ชายหลายคนเข้าใจผิดยังเคยมาจีบภูมิซะด้วยซ้ำ แต่ภูมิเองรู้แก่ใจตัวเองว่า ตัวเองไม่ได้เป็นคนที่รักชอบเพศเดียวกัน
“แน่นะ” แซมถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“แน่นอนครับผม”
แซมจ่องมองอย่างละเอียดถี่ยิบ ตั้งแต่หัวจรดเท้า จนกระทั้งหน้าอกของหนุ่มน้อยที่แบนราบ จนแน่ใจว่าไม่ได้โกหก
“โห......” แซมพูดพร้อมกับทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ
“อะไรหรือครับ”
“นายเหมือนผู้หญิงมาก เหมือนทอมดี้ หรือก็กะเทยเลยนั้นแหละ”
“ผมไม่ได้เป็นอย่างที่พี่แซมพูดซักอย่างเลยครับ”
“อื้ม....... เชื่อ........พี่เชื่อ...........แล้ว”
“ที่พี่ถามไม่ใช่อะไรหรอก พี่ชอบแบบนั้น ...” แซมพูดทีเล่นทีจริง
“ไหนขอพิสูจน์หน่อย”
“อยู่นิ่งๆนะ”
แซมก้าวเดินเข้าไปอย่างชิดใกล้ พร้อมกับจับตัวภูมิหมุนตัว พร้อมกับลูบคลำตามเนื้อตามตัว บีบแขน บีบขา แกล้งรับน้องใหม่อย่างสนุกสนาน ท้ายสุดก็เอามือใหญ่ขยี้ผม ให้กระเซอะกระเซิง ยุ่งเหยิงแล้วหัวเราะชอบใจ
“พี่แซม ภูมิเจ็บนะ”
“โห..แค่นี่เจ็บ..พี่ทำค่อยๆเอง..”
“ค่อยๆของพี่ แต่กับคนอื่นมันไม่ค่อยนะครับ “
“ได้ ๆงั้นเดี่ยวพี่ทำเบาๆ” แซมพูดแล้วยิ้ม เขาพูดกำกวมซะจนไม่กลัวว่าเพื่อนบ้านจะได้ยินแล้วเข้าใจผิด
ก่อนที่จะบีบแก้มเบาๆ อย่างสุขใจ
“แล้วนี้เรากินอะไรบ้างแล้วยัง”
ภูมิสายหน้า เขายังไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากมื้อเช้า และตอนนี้ก็รู้สึกหิวเหมือนกัน
“รอพี่อาบน้ำ 5 นาทีเดี่ยวจะพาออกไปหาอะไรกินที่ตลาดกัน ฉลองรับน้องใหม่” เขาพูดเสร็จก็เปิดประตูห้องของเขาเองที่อยู่ติดๆกัน ครู่หนึ่งก็ออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูที่พันกายส่วนล่างเท่านั้น
พี่แซมหุ่นดีจังเลย ทำไมเราไม่เป็นแบบนี่บ้างนะ ...ช่างเหอะ ว่าแต่ว่าพี่แซมชอบแบบนั้นจริงหรือเปล่า ..
ภูมินั่งคิดในใจขณะที่นั่งรอชายหนุ่มชำระร่างกาย ภูมิออกมานั่งรอที่ม้านั่งนอกบ้าน หัวสมองคิดอะไรมากมาย เกี่ยวกับชีวิตของตัวเอง ที่ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร อนาคตจะดีหรือร้ายแรงขนาดไหน
“ป่ะ” เสียงนั้นออกมาพร้อมกับตัว แซมเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ เขาสวมเสื้อยืดสีขาวกับยีนต์สีซีด เท่ห์มากมาย
“รอแปบนะ” แซมวิ่งเข้าไปในบ้านอีกครั้งเหมือนว่าลืมอะไรบางอย่าง ครูหนึ่งก็ออกมาพร้อมกับเสื้อแขนยาวตัวใหญ่ของเขาเอง
“เดี่ยวภูมิขับรถให้พี่หน่อยนะ จะได้รู้จักถนนหนทางไง”
“ได้ครับ”
“อะ นี่เสื้อใส่ซะ อากาศเย็นเดี่ยวจะไม่สบาย”
ภูมิสวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำตัวใหญ่ของเขา ที่ตัวใหญ่ยาวจนพ้นชายกางเกงที่ใส่อยู่ มองดูเผินๆเหมือนคนไม่ใส่กางเกงเลย ในขณะที่มัวยืนลังเลอยู่
.............................................................................................................................
ผู้คนในตลาดโต้รุ่ง ต่างเพ่งมองไปยังคู่หนุ่มสาวที่เดินเคียงคู่กัน ในตัวตลาด
“ภูมิช่วยไรพี่อย่างสิ”
ภูมิมองหน้าคนที่เอ๋ยขอร้อง
“ช่วยแสดงตัวเป็นแฟนพี่หน่อย”
“อะไรนะ”
“พี่บอกว่า ช่วยทำตัวเป็นแฟนพี่หน่อย”
“มันจะดีหรือพี่แซม”
“นะ นะ พี่ขอร้อง แล้วพี่จะเล่าให้ฟังทีหลัง”
แซมเดินกอดคอ เดินจับมือภูมิเดินไปทั่วตลาด จนสาวๆที่เห็นเป็นต้องอิจฉาตาร้อนกันเป็นแถบๆ การเดินควงกันครั้งนี้เหมือนเป็นการเปิดตัวคู่รักคู่หวาน ไปในตัว เป็นการประกาศให้ทุกคนรับรู้โดยทั่วกันไปเลยทีเดียว
“ภูมิเลยกลายเป็นไม้เลย เฮื้อ!!”
“หือ” อีกฝ่ายทำหน้างงขณะที่กำลังหยิบแก้วน้ำดื่ม หลังจากที่อิ่มท้อง
“ไม้กันหมาไง แม่สาวๆพวกนั้นไม่รุมทำร้ายภูมิแย่เหรอ” ภูมิเอ๋ยด้วยสีหน้าทุกข์ร้อนใจยิ่งนัก ตรงข้ามกับแซมที่หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“เดี่ยวพี่จะคุ้มครองน้องเอง ที่รักของพี่” ชายหนุ่มพูดไปพลางหัวเราะไป อย่างขำขำ แต่ภูมินี่สิไม่ขำด้วย นั่งหน้าเครียดจัด
“คิดมากน้า ไอ้เจ้าภูมิ พี่นะชายแท้ พี่มีคนรักแล้วตอนนี้เรียนอยู่ที่เมืองนอก กลับมาเราก็จะแต่งงานกันมีลูกซัก 11 คนเป็นทีมฟุตบอลเลย” แซมพูดขณะที่เดินเลือกซื้อของใช้ที่จะเป็นสำหรับสมาชิกในบ้านคนใหม่ ในมินิมาร์ท
ภูมิเดินมาหยุดอยู่ที่กระจกบานใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้ทั้งตัว ดูสารรูปตัวเองในกระจกเงา แซมเห็นภูมิยืนอยู่หน้ากระจกเป็นนาน เลยเดินเข้ามา
“หล่อแล้ว” แซมให้กำลังใจ เด็กหนุ่มที่มีสีหน้าเครียด เมือมองเห็นสารรูปของตัวเองในกระจกเงา
“ป่ะ ..กลับบ้านกัน” เขาพูดพร้อมกับเอามือขยี้ผมให้ยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิง พร้อมกับยิ้มหัวเราะชอบใจ
“สาวเกาหลี” ผู้คนที่พบเห็นต่างต้องพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันแน่ ว่าภูมิเป็นสาวเกาหลี น่ารักซะน่ามอง
..........................
ขากลับแซมทำหน้าที่เป็นคนขับรถ ไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงบ้าน เล่นเอาซะจนภูมิแปลกใจ
“พี่... พี่แกล้งภูมิตลอดเลยนะ” ภูมิตัดพ้อขณะที่วางของใช้ส่วนตัวที่ซื้อมา วางลงบนโต๊ะ
“แกล้ง เกลิ้อง อะไรกัน”
“เนียนมากเลย พี่แซม.....ตลาดอยู่ใกล้แค่นี่เอง ขาไปให้ภูมิขับอ้อมเป็นชั่วโมง”
“ฮ่าๆๆๆๆ ทำไมไม่คิดว่าพี่อยากให้ภูมิรู้จักถนนหนทาง แถวนี่บ้างละ คิดบวกเป็นไหม”
“อื้มๆ ครับๆ บวกก็บวก” ภูมิพูดพร้อมกับเตรียมจะเปิดประตูห้องนอน แต่ต้องชะงัก เมื่อต้นแขนถูกมือใหญ่แข็งแรง รั้งเอาไว้ซะก่อน พร้อมกับส่งสายตากวนๆ
“มานอนด้วยกันข้างนอกไหม นอนในห้องอึดอัดนะ ต้นไม้ในบ้านมีเยอะ ครูวิทยาศาสตร์น่าจะรู้นะว่าต้นไม้คายก๊าซอะไรในตอนกลางคืน”
“แล้วปกติพี่นอนตรงไหน”
“นอนหน้าทีวีไง”
ภูมิมองไปยังหลังตู้ที่มีชุดเครื่องนอนคุณภาพดี พับเก็บไว้หลังตู้
“หุหุ.....ภูมิว่าภูมินอนในห้องดีกว่า”
“ตามใจแล้วกัน แล้วอย่าหาว่าพี่ไม่บอกน้า........”
********************************************************************************************
ภูมินอนหลับกระสับกระส่ายไปมา รู้สึกตัวอีกที ก็อยู่ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง.....ที่นี่ช่างน่ากลัวเหลือเกิน
“เฮ้ย” ภูมิตกใจ ก้าวถอยหลังอย่างหวาดผวา สิ่งสิ่งหนึ่งที่มองดู เป็นปีศาจร้ายตนหนึ่งที่น่ากลัวเหลือเกิน
มันมีแววตาที่เกรี้ยวกราด...หน้าตาขาวซีดเผือดเหี่ยวย่น ดวงตามีสีแดงคม.... ส่งเสียงแผดร้องดังก่องไปทั่วท้องบริเวณแห่งนั้น มันพุ่งหน้ามา ภูมิอยากจะวิ่งหนีมันเสียให้พ้นๆ แต่ทำไมขาทั้งสองไม่เป็นใจเลย อยากจะวิ่งแต่ก็วิ่งไม่ได้ ได้แต่กระเถิบร่างตัวเองถอยหนี
ปีศาจร้ายเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ทุกที ยิ่งเข้ามาใกล้เท่าไร รูปร่างหน้าตาของมันก็เผยรูปลักษณ์อันน่าเกลียดน่ากลัว เป็นเท่าตัว
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย” เสียงตะโกนขอความช่วยเหลือดังก้องไปทั่วแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครสักคนมาช่วยเลย
“เลือด เลือด ข้าอยากกินเลือด” เสียงแจ๊ดๆแสบแก้วหู เป็นเสียงร้องของปีศาจร้ายตนนั้น
“เจ้าหนุ่มน้อย ทำไมตัวเจ้าช่างน่ากินซะเหลือเกิน เลือดของเจ้าคงเข้มข้น หวานกลมกล่อมเป็นแน่แท้ ฮ้าๆๆ”
ปีศาจร้ายตนนั้นพูด พร้อมกับแผดเสียงร้องดังก้องไปทั่ว ช่างน่ากลัวซะเหลือเกิน
“ได้โปรดเถิด อย่าทำอะไรผมเลย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าจะร้องขอความช่วยเหลือ ให้มากความไปทำไม ยังไงซะ เจ้าก็ต้องเป็นอาหารของข้า”
พูดเสร็จ ปีศาจร้ายก็แผดเสียงร้องดังก่องกังวานไปทั่ว
“อย่า อย่า” ภูมิร้องตะโกนอย่างสุดเสียง
“ภูมิ..ภูมิ...เป็นอะไรหรือเปล่า”
เสียงเคาะประตูห้อง ถูกเคาะอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีวี่แววว่า คนในห้องนอนจะตื่น แซมตัดสินใจนำกุญแจห้องสำรองที่เก็บเอาไว้
ไขประตูห้องเข้าไป ภาพที่เห็นทำให้ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจเป็นที่สุด ชายหนุ่มยื่นมือของตนตบที่แก้มของภูมิเบาๆ ครูหนึ่งร่างที่กำลังหลับตาสนิท นอนกระสับกระส่ายดิ้นไปดิ้นมาก็ลืมตาขึ้น
“เป็นไงบ้าง .. ร้องซะดังลั่นบ้านไปหมด”
ภูมิค่อยๆลืมตาขึ้น บุคคลที่อยู่ตรงหน้าเป็นบุคคลที่คุ้นหน้าคุ้นตาเหลือเกิน ภูมิค่อยๆ เรียกสติกลับคืนมา
“พี่แซม” ภูมิพูดเสร็จก็ลุกขึ้นสองมือคว้าลำตัวของแซมกอดกุมซบหน้าที่แผ่นหลังของชายหนุ่ม เหมือนว่าเป็นเกราะกำบังตนอย่างดี
“ภูมิ ... ตื่นได้แล้ว ..ฝันร้ายนะเรานิ” แซมเรียกสติของภูมิให้กลับคืนมา มือลูบหัวและเนื้อตัวของเด็กหนุ่มไปมา
“ฝัน... ฝันเหรอ....” สองมือที่โอบกอดซบหน้าที่แผ่นหลังของชายหนุ่ม ผละออกอย่างรวดเร็ว หากแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมปล่อยลำแขนที่กอดกลับ
ภูมิมีความรู้สึกอาย มือทั้งสองของภูมิ แกะมือของชายหนุ่มที่กอดกุมร่างของตนไว้ออกจากตัว
“ฮ้า ๆๆๆ ฝันเห็นอะไรเหรอภูมิ”
“ฝันร้ายอะพี่”
“อื้ม.. ฝันน่ากลัวมากไหม”
ภูมิมองไปที่อีกฝ่ายที่กำลังหัวเราะชอบใจ กับอาการวิตกกังวล หวาดกลัวของตน
“ไม่ตลกนะพี่”
“ตลกดิ” แซมพูดไป หัวเราะไป
จนภูมิต้องเมินหน้าหนี มีสีหน้างอน ไม่ชอบใจที่มีคนมาหัวเราะเยาะ ร่างบางลุกขึ้นก้าวเดินไปยังห้องน้ำล้างหน้าล้างตา แล้วเดินกลับมาที่ห้องนอนของตนอีกครั้ง เวลาพึ่งผ่านมาไม่นานนี่เองแสดงว่าทันทีที่เข้านอน แล้วก็หลับภูมิก็ฝันร้ายทันทีเลยหรือนี่
แล้วนี่จะกล้านอนต่อไหมหนอ คืนแรกก็ฝันร้ายซะแล้ว คิดไปคิดมาภูมิก็ทอดตัวลงนั่งบนเตียงนอน ซึ่งตอนนี่โล่งปราศจากเครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม แม้แต่ชิ้นเดียว ภูมิรู้ทันทีว่าใครเป็นคนย้ายไป
ประตูห้องถูกเปิดอีกครั้ง พร้อมกับร่างของเด็กหนุ่มนามว่านายภูมิ ยืนมองมาที่ตน แซมแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ชายหนุ่มเปิดโคมไฟเล็กๆ นั่งทำงานของตน
ภูมิก้าวเดินช้าๆ ไปยังพื้นที่ที่แซมจัดใช้เป็นที่นอน ก็พบชุดเครื่องนอนของตนถูกปูวางไว้ข้างๆแนบชิดกันกับชุดเครื่องนอนของพี่เขา ภูมิไม่พูดอะไรต่อไปทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนที่แซมจัดไว้ให้ หัวถึงหมอนไม่นานก็หลับไปอีกครั้ง......หลับสนิทและฝันอีกครั้ง หากแต่คราวนี่เปลี่ยนจากฝันร้ายกลายเป็นฝันหวานแทน
แซมนั่งทำงานของตนเองไปเรื่อยๆ พร้อมๆกับชำเลืองมองไปที่ร่างที่หลับสนิทนอนด้วยท่านอนที่..........
ครู่หนึ่งเขาก็เก็บงานของตน เตรียมตัวเข้านอน แซมถอดเสื้อยืดที่ใส่ออก เขาชอบนอนถอดเสื้อ เพราะว่ามันเย็นสบาย โล่งตัวดี
แล้วชายหนุ่มก็ทิ้งตัวลงนอนเคียงข้าง กลิ่นหอมจางๆ ของคนที่นอนข้างๆ กระตุ้นต่อมประสาทส่วนหนึ่งในกายของชายหนุ่ม อย่างที่แซมไม่เคยรู้สึกแบบนี่มาก่อน ยามใดที่ภูมินอนขยับตัว ไปสัมผัสกับกายของชายหนุ่ม ยิ่งเพิ่มความรู้สึกพิเศษตามธรรมชาติเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เนื้อตัวของภูมิ นุ่มเนียนมากมาก ก็ผิวเขาสวยนี่หนา แต่แปลกที่เป็นผู้ชายเท่านั้นเอง ถ้าเป็นสตรีเพศ แซมคงไม่ปล่อยให้เธอนอนลอยนวลเป็นแน่แท่
ตอนที่ 2. มากมาย
แสงแดดยามเช้า ส่องแสงผ่านม้านหน้าต่าง กระทบกับเปลือกตาของภูมิ
“เข้าแล้วหรือนี่” ภูมิคิดในใจ เตรียมตัวที่จะลุกขึ้นนอน แต่ก็ต้องตกใจในสภาพการนอนของตนเอง ภูมินอนตะแคง มือข้างหนึ่งของตัวเองพาดวางไว้ที่บริเวณอกกว้างของเขา โดยมีมือของแซมกุมมือนั้นไว้อย่างอ่อนโยน
“กรรม!! นี่เรานอนกอดพี่แซมทั้งคืนเลยหรือนี่”
ว่าแล้วภูมิก็ค่อยๆ แกะมือออกจากการกุมมือของเขาออกอย่างเบามือ รู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างหวั่นไหว
****************************************************************************************
วันนี่ภูมิขอตัวออกไปทำธุระ โดยที่แซมเองขออาสาพาไป แต่ภูมิก็ปฏิเสธ กลัวว่าตัวเองจะโดนพี่ชายคนนี่แกล้งอีกเหมือนตอนที่อยู่ในตลาด
เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นมา คุณครูดวงใจนั้นเองโทรมา แซมกำลังนั่งเขียนแบบบ้านอยู่ ก็ลุกขึ้น
“ว่าไงแซม น้องเขาเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ดีครับ น่ารักดี มาตอนแรกนึกว่าผู้หญิง”
“น่ารักแบบไหน เรานิ พูดจาแปลกๆ น้องเขาเป็นผู้ชายจริงๆ ”
“แซมหมายถึง นิสัยน่ารักนะครับแม่”
“ยังไงก็ฝากดูแลน้องหน่อยนะ แล้วอย่าไปแกล้งเขาละ”
“ครับผม ผมจะดูแลอย่างดีเลยครับ”
“เดี่ยวเหอะ... แม่หวังว่าแม่คงไม่ได้นำปลาย่างไปให้แมวนะ ”
“ไม่หรอกครับ ผมไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย”
“ก็ดี งั้นแค่นี่ก่อนนะ แม่จะไปทำธุระซะหน่อย”
“ครับผม”
สิ้นเสียงจากการวางสายโทรศัพท์ ชายหนุ่มก็กลับมานั่งทำงานของตัวเองต่อ ซึ่งใกล้จะเสร็จแล้ว
ทำงานไปก็คิดถึงคำพูดของผู้เป็นแม่ไป ที่กำชับตน แซมมองไปที่ประตูบ้าน ไม่มีวี่แววว่าคุณครูน้องภูมิจะกลับมาซะที
ตอนที่ 3.พี่ชายที่แสนดี
ระหว่างที่นั่งออกแบบโครงสร้างตึกอยู่ ครูหนึ่งต้องหันหน้ามองไปที่ประตูบ้าน นับสิบครั้ง รอคอยการกลับมาของเจ้าน้องชาย ชายหนุ่มมีความรู้สึกดีที่มีใครสักคนมาเป็นเพื่อนของเขา ในฐานะน้องหรือเพื่อน ……
บ่ายโมงกว่าๆ ประตูบ้านก็ถูกเปิด พร้อมกับร่างของภูมิ ซึ่งแซมมองไปในระยะไกล ผิวกาย รูปร่าง ทรงผมของเด็กคนนี่ ทำให้หัวใจหนุ่มเต้นกระชุ่มกระชวยขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ไปไหนมาทำไมกลับมาซะนานขนาดนี่.... ภูมิ” แซมส่งเสียงเข้มดุ จนคนที่ได้ยินถึงกับหยุดนิ่ง
“ไปหาซื้อของใช้ส่วนตัวครับ” ภูมิกล่าวออกไปอย่างคนสำนึกผิด
“ภูมิขอโทษนะครับที่ไปข้างนอกนานไปหน่อย”
“อื้ม” แซมส่งเสียงซีเรียส ทั้งๆที่ในใจอยากจะหัวเราะ
“ภูมิขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ”
ภูมิเดินเข้าห้องของตน ด้วยความรู้สึกผิดมากมาก เราเป็นเพียงแค่คนอาศัยไม่น่าจะทำให้เจ้าของบ้านต้องมาเดือดร้อน นี่แหละคือปัญหา ที่ภูมิเองปฏิเสธการมาพักที่บ้านของครูดวงใจ แต่ด้วยเหตุผลหลายประการทำให้ภูมิต้องอยู่ที่นี่ เด็กหนุ่มสัญญาว่า จะไม่ทำให้ตัวเองเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายอีก
แซมมองไปยังร่างๆหนึ่งที่กำลังเดินมาที่ตน เสื้อยืดธรรมดาสีขาวกับกางเกงขาสั้น ทรงผมบ๊อบที่พึ่งเสร็จจากการสระ
มาใหม่ๆ ยังไม่แห้งดี ยุ่งเหยิงเล็กน้อย ของเจ้าน้องชาย
ภูมิเดินมาเห็นชายหนุ่ม มองตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า จึงก้มสำรวจตัวเองเป็นการใหญ่
“ภูมิมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าครับพี่แซม”
“มี”
“อะไรครับ ตรงไหน” พูดไปก็ก้มสำรวจดูตัวเองเป็นการใหญ่ หมุนตัวซ้ายขวา
“พี่พูดเล่น ไม่มีอะไรผิดปกติหรอก” แซมหัวเราะยิ้ม
รอยยิ้มที่หน้าคมเข้ม ทำให้ชายหนุ่มดูหล่อมากขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว .ร่างสูงสง่าในเสื้อยืดสีขาว ช่างเข้ากับยีนส์สีกรมเข้มตัวนี้เหลือเกิน อาจเป็นเพราะว่ามีพื้นฐานดีอยู่แล้ว ภูมิดีใจที่พี่แซมยิ้มได้ เพราะก่อนหน้านี่ยังทำเสียงซีเรียส ดุดุ
“ภูมิกวนหรือเปล่า”
“ไม่นิ ดีออก มีเพื่อนคุย”
แซมมองไปยังน้องชายของตนเอง ที่กำลังนั่งลงใกล้ๆ
“ภูมิขอโทษนะครับ ที่ไม่ได้เก็บที่นอน”
“ไม่เป็นไร พี่รู้ว่าภูมิคงกลัวว่าจะทำให้พี่ตื่น ใช่ไหม”
“แหม พี่แซมนี่น่ารักจังเลยนะครับ ไม่น่าละ สาวสาวถึงได้มองตาไม่กะพริบ”
ภูมิกล่าวชมพี่ชายอย่างจริงใจ พร้อมๆกับทิ้งตัวลงนอนเล่นใกล้ๆกับแซม บนเสื้อกกผืนใหญ่ที่ถูกปูไว้อยู่แล้ว โดยหารู้ไม่ว่าการนอนเล่นของตนเอง อวดรูปร่างอรชร แขนขาวขาว ขาเนียนเนียน ที่ยกขึ้นไปมา ท่วงท่านอนที่พลิกตัวไปมา มันช่างดูสวยงามราวกับดอกไม้ไหวยามปะทะกับสายลมพลิ้ว
ชายหนุ่มหลบสายตามองไปที่แผนงานของตนทันที ที่ภูมิหันหน้ามาที่ตน
“พี่แซมมีอะไรให้ภูมิช่วยไหม”
“ไม่ดีกว่า พี่ว่าเรานอนเล่นไปเถอะ”
“แต่ภูมิอยากช่วยพี่จริงๆนะ นอนเฉยๆน่าเบื่อออก”
“ว่างนักเหรอไง” เขาตอบในขณะที่ตายังมองไปที่แผนงานอยู่ และดูเหมือนจะก้มหน้าก้มตา วาดขีดเขียนอะไรต่อมิอะไรวุ่นวายไปหมด
“ก็อีกตั้งหลายวัน ถึงจะเปิดเทอม”
“แน่ใจนะว่าจะช่วยพี่จริง”
“แน่ใจ”
“สัญญา”
“โอ้โห พี่แซมถึงกับต้องสัญญาเลยหรือนี่ ได้สิครับ สัญญาก็สัญญา”
“งั้นนอนรอแปบหนึ่ง” แซมนั่งทำงานตรวจดูรายละเอียดแบบโครงสร้างบ้านจัดสรร อยู่ครู่หนึ่งก็เก็บอุปกรณ์ทำงานไปเก็บ พร้อมกับเดินกลับมา ในมือถือหมอนใบหนึ่ง เขาขยับตัวเข้าไปนอนคู่กันแบบชิดใกล้ ซะจนภูมิต้องขยับตัวลุกขึ้น
“มะ ได้เวลาทำตามสัญญาแล้ว” พูดยังไม่ทันขาดคำ ชายหนุ่มก็ถอดเสื้อยืดของตัวเองออก นอนคว่ำหน้าฟุบลงที่หมอนนุ่ม
มองไปยังใบหน้าเนียน ที่ทำหน้างงงันอยู่
“นวดให้พี่หน่อย”
“นวด” ภูมิย้อนถามเพื่อความนั่นใจ
“นวดหลังให้พี่หน่อย นวดให้ทั่วๆเลยนะ ทุกส่วนเลยยิ่งดี”
“ครับ”
กว่าที่จะตัดสินใจนำมือของตนเองเข้าไปสัมผัส บีบเค้น นวดผิวกายที่แน่นเครียดไปด้วยกล้ามเนื้อ ภูมิต้องตั้งสมาธิก่อน
มือน้อยๆ พยายามบีบนวดที่ที่หลัง บ่ากว้าง ช่วงเอว ให้มีน้ำหนักมากที่สุด
“เอาตรงนั้นแรงๆหน่อยๆ
“อะ ดีดี”
ครู่หนึ่งภูมิก็ต้องหยุดพัก การบีบนวด การเป็นหมอนวดจำเป็นคราวนี่ เล่นเอาซะนิ้วมือชาไปหมด
“ภูมิพักแปบนะพี่ ตัวพี่แข็งจังเลย “
“พี่ก็ตัวแข็งทั้งตัวนั้นแหละ ยกเว้นใจ”
“พี่แซมกำลังจะบอกว่า ใจอ่อน ใช่ไหม หุหุ มุขนี้แป๊กนะพี่ ”ภูมิยิ้มชอบใจ
“รู้ใจพี่ดีจังเลยเนาะ” แซมพูดพร้อมกับหันหน้ามามอง คนที่กำลังยิ้มเล็กยิ้มน้อยต้องหุบปาก เลิกยิ้มทันที
แซมพลิกตัวนอนหงาย พร้อมกับเอามือชี้มาที่อกของตัวเอง เป็นสัญญานบอกว่า ได้เวลานวดตัวด้านหน้าแล้ว
ภูมิเริ่มทำการนวดให้คุณพี่ชายอีกครั้ง ไล่จากนิ้วมือยาว แขน ไหล ทั้งสองข้าง ไปมาหลายรอบ
แล้วหยุดนิ่ง แต่อีกฝ่ายกลับชี้นิ้วไปที่อกกว้าง เป็นสัญญานบอกอีกครั้งว่า ต้องนวดอกกว้าง ตลอดจนหน้าทอง เอวของเขาด้วย
“โห...พี่แซมมีตังจ่ายค่านวด เปล่า”
“โหหหหห ภูมิรู้ตัวไหมว่าเป็นคนโชคดีมากเลยนะ ที่ได้สัมผัสลูบคลำเนื้อตัวคนหล่อหล่ออย่างพี่”
“หุหุ แสดงว่ามีสาวๆหลายคนจองตัวอยากนวดพี่แหงๆ”
“แต่พี่เลือกภูมินะ” แซมพูดเป็นนัยๆแฝงไปด้วยความหมายหลายอย่าง แต่คนที่ฟังนี่สิ กลับไม่รับรู้อะไรเลย
มิน่าละ ครูดวงใจหรือว่าแม่ของแซมถึงได้กำชับนักหนา “ดูแลน้องดีดีนะ” ชายหนุ่มคิดไปถึงคำสั่งของแม่
“อยากได้หุ่นแบบพี่แซมจังเลย”
“ทำไมเหรอ” ชายหนุ่มถามขณะที่มองมือนุ่ม ที่กำลังบีบนวดที่บริเวณหน้าท้อง และเอวของตนเอง ซึ่งสร้างความรู้สึกพิเศษตามประสาชายหนุ่มขึ้นมาห้ามใจตัวเองไม่ได้ แต่ก็ต้องข่มมันไว้
“อยากได้หุ่นพี่เหรอ งั้นเอาไปเลย พี่ยกให้”
“เอาได้ก็ดีสิ” ภูมิพูดพลางน้อยใจชีวิตตัวเองที่เกิดมารูปกายไม่สมชายชาตรี แต่กลับเหมือนสตรีเพศแทน
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้”
“พูดเป็นการ์ตูนไปได้พี่แซม”
“หุ่นของพี่ พี่ยกให้ภูมิ แต่หุ่นของภูมิพี่ขอนะ เรามาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน”
คำพูดที่กำกวนแฝงไปด้วยความหมายหลายอย่างของชายหนุ่มได้ผล เมื่ออีกฝ่ายมีสีหน้าวิตกกังวล
ภูมิไม่อยากได้แล้ว ...พี่แซมชอบแกล้งภูมิอยู่เรื่อยเลย”
“ก็เพราะว่าพี่ชอบไง พี่ถึงได้แกล้ง”
“อื้ม” ภูมิพูดในลำคอ เพิ่มแรงนวดสุดแรง บีบไปที่หน้าทองแข็งๆของชายหนุ่มอย่างแรง
“โอ๊ย” แซมร้องออกมาด้วยความเจ็บ ตาจ่องมองยังอีกฝ่ายที่กำลังหัวเราะชอบใจ
“แกล้งพี่ใช่ไหม”
“อ้าว ทีพี่ยังแกล้งภูมิได้ ภูมิขอคืนบ้างไม่ได้หรือครับ หุหุ” ภูมิหัวเราะชอบใจ
หน้าท้องของแซมตอนนี้มีรอยเขียวช้ำเล็กน้อย แซมเลยคิดที่จะเอาคืน แกล้งเจ้าน้องชายแสนซื่อคนนี้ซักหน่อย
“ภูมิพี่นวดให้ไหม”
“ไม่เป็นไรครับพี่ ภูมิไม่เมื่อย”
ภูมิพูดเสร็จก็ลุกขึ้นวิ่งหนีทันที รู้ทันว่าแซมต้องแกล้งคืนแหงๆ ทำให้แซมต้อง นั่งเซ็ง ได้แต่นอนมองดูเจ้าน้องชายรดน้ำต้นไม้ พร้อมๆกับเล่นน้ำไปด้วย ในบ้านอย่างเพลิดเพลินตา
*************************************************
“ภูมิ...ไปดูพี่เล่นบาสไหม”
“ที่ไหนเหรอพี่”
“ก็ที่สนามกีฬากลาง นะ ไปด้วยกันนะ”
“ได้ๆ แต่ภูมิไม่มีชุดกีฬาอะ”
“ไม่เห็นเป็นไร ไปชุดนี่ก็ได้ป่ะ”
แซมพูดเสร็จก็เดินเข้าไปในห้องของเขา ครูหนึ่งก็ออกมาพร้อมกับเสื้อแจ๊คเก็ต ตัวโตที่สวมเมื่อวาน ยื่นให้กับภูมิ
“ใส่ซะ เดี่ยวจะดำ แล้วก็นี่ด้วยแว่นตาดำ”
“ทำไมต้องใส่แว่นตาด้วยละพี่แซม”
“ภูมิไม่รู้ตัวเหรอ ภูมิเหมือนผู้หญิงมากขนาดไหน พี่อยากขับรถซ้อนสาวสวย อวดชาวบ้านเขาซักหน่อย”
“ฮ่าๆๆๆ เล่นงี้เลยเหรอพี่”
“อื้ม”
“ภูมิควรจะดีใจหรือเสียใจกันแน่ละเนี้ยะ”
“เหอะน่า”
************************************************************************
“แซมได้สาวที่ไหนมาว่ะ น่ารักว่ะ”
แซมไม่ตอบ แต่กลับยิ้มให้กับสมาชิกเพื่อนพี่น้องชาวบาสเก็ตบอล เท่านั้นพร้อมกับมองไปยังใครคนหนึ่ง
ตัวขาวๆ ใส่แวนตาดำ ทรงผมบ๊อบสั้น สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำ นั่งอ่านหนังสืออยู่บนสแตนเชียร์ นานนานทีก็พักหน้าหนังสือไว้มองคนเล่นบาส อย่างคล่องแคล่ว
ฟ้าเริ่มมืด ทั้งสองก็ไปกินข้าวเย็นที่ตลาดกัน
“ภูมิขับดีกว่า เดี่ยวเหม็นเหงื่อพี่”
“ภูมิกำลังจะบอกพี่พอดี ว่าภูมิขอขับเอง” ภูมิพูดพร้อมกับขับรถมุ่งหน้าไปตลาดโต้รุ่ง
“ร้ายนักนะเรา”
“ร้ายแรงสูงเลยละพี่แซม พี่ยังไม่รู้เหรอ”
“เออ...ตั้งใจขับไป..อย่าโม้”
บรรยากาศตลาดโต้รุ้ง ที่เป็นธรรมชาติ ต้นไม่เขียวขจี น้อยใหญ่ยังมีอยู่ให้พบเห็น ผู้คนที่เดินผ่านไปมา ต่างมองมาที่คู่หนุ่มสาวคู่นี่ ที่เหมาะสมกันยังกะกิ่งทองใบหยก พูดคุยกันอย่างสนิทสนม
“พี่แซม ไม่ต้องพูดใกล้ๆหูภูมิก็ได้ มันจั๊กกะจี่” ภูมิบอกขณะที่กินข้าวอิ่มท้องเรียบร้อย
“จักกะจี่ หรือ เสียวกันแน่” แซมพูดไปมองไป ทำตายั่วยวน
“คือ ภูมิเหม็นปากพี่อะ” ภูมิสวนกลับทันที เล่นเอาอีกฝ่ายอึ้งพูดไม่ออก เมื่อโดนประโยคนี่
หลังจากที่จัดการกับอาหารเย็นเรียบร้อย ทั้งสองก็ขับรถกลับบ้าน และตกดึก ก็นอนด้วยกันหน้าทีวีจอแบนขนาดใหญ่ ที่เดิม และเช่นเคย ทันทีที่หัวถึงหมอน ก็หลับทันที ปล่อยให้ชายหนุ่มนอนกระสับกระส่าย เขาอยากจะกอดคนที่นอนข้างๆเป็นที่สุด แต่กลัวว่าไก่จะตื่น วิ่งหนีกลับบ้านไปซะก่อน ที่ทำได้ก็แค่เพียงนอนมองเท่านั้น แซมรู้ดีว่าภูมิชอบนอนกอดหมอนข้าง
จึงนำหมอนข้าง ขว้างไปที่อื่นแล้วขยับตัวเข้าใกล้ เอาตัวเองเป็นหมอนข้างแทน จนเช้า
กาลเวลาผ่านไปนานวันเข้า ยิ่งสร้างความผูกพันให้กับคนทั้งสอง โดยเฉพาะชายหนุ่ม ที่รู้สึกสุขใจที่ได้อยู่ใกล้ ..”ภูมิ”
ตอนที่ ..5. ระยะทางพิสูจน์รัก เวลาพิสูจน์ใจ ใครรักใคร (งง)
เช้านี้เป็นเช้าที่สองพี่น้องตื่นสายมากที่สุด หลังจากที่เมื่อคืนไปเช่าหนังผีมาดูซะจนตีสี่กว่าๆ
แซมลืมตาขึ้นมามองคนที่นอนข้างๆ ซึ่งเช้านี่ภูมิไม่ได้นอนกอดแซมเหมือนทุกที แต่เปลี่ยนจากมือเป็นขาแทน ขาขาวขาวเรียวสวยพาดทับตัวแซมไว้ ชายหนุ่มไม่กล้าแม้แต่กระดิกเนื้อกระดิกตัว กลัวว่าภูมิจะตื่นนั้นเอง จึงนอนเล่นต่อไปแต่ดูเหมือนยิ่งนอนนานขึ้น อารมณ์อย่างหนึ่งก็ก่อตัวขึ้นกับชายหนุ่มขึ้นมาอย่างมากมาย
แซมจับขาของน้องชายออกจากตัว แล้วลุกขึ้นออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ และอีกเหตุผลหนึ่งเพื่อลบล้างอารมณ์รักให้ซาไป ครู่หนึ่งชายหนุ่มก็ไปอาบน้ำชำระร่างกาย ออกจากห้องน้ำก็ไม่พบเจ้าน้องชายอีก ชุดเครื่องนอนถูกพับเก็บไว้เรียบร้อย
แซมเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องของตนเรียบร้อยก็ออกมานั่งดูทีวี
“พี่แซม”
“ว่าไง” แซมขานรับเสียงเรียกที่ดังมาจากในห้องน้ำ
“พี่ช่วยหยิบผ้าขนหนูให้ภูมิหน่อยสิ”
“ลืมละสิ” แซมพูดพร้อมกับเดินก้าวเข้าไปในห้องส่วนตัวของภูมิ หยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่ สายตามองไปเห็นเป้ใบหนึ่ง ที่ถูกแพ๊กไว้เป็นอย่างดี ต่อมสงสัยทำงานขึ้นมาทันที
“อะ ภูมิ เปิดประตูสิ”
ภูมิเปิดประตูแง้มๆ มาเล็กน้อย โผล่ออกมาแค่เพียงหัว ส่วนลำตัวแอบหลบไว้หลังประตู
“อายไร.... ผู้ชายด้วยกัน” แซมพูดพร้อมกับแกล้งดันประตูห้องน้ำ เล่นเอาอีกฝ่ายร้องจ๊าก
แซมหัวเราะชอบใจ เขายื่นผ้าขนหนูให้แล้วกลับมานั่งดูทีวีคืน ครูหนึ่งภูมิก็ออกมา ผ้าขนหนูผืนใหญ่มาก สามารถคลุมได้ทั้งตัววิ่งเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว
“พี่แซม ... พี่ไปส่งภูมิที่ท่ารถได้ไหม”
“จะหนีพี่ไปไหน”
“ก็ภูมิเบื่อหน้าพี่นี่หนา .... พี่เองก็คงจะเบื่อภูมิเหมือนกันละมั่ง”
“ใครว่าละ ภูมิคือความสุขของพี่W
“โอ้โห... พูดยังกะพระเอกละครทีวีแนะ อยากรู้จังเลยว่านางเอกคือใครกันหนอ”
“ภูมิไง”
“ฮ่าๆๆๆๆ พี่แซมนี่ชอบพูดเล่นตลกอยู่เรื่อยเลย ...ไปเถอะภูมิพร้อมแล้ว” ภูมิยืนสะพายกระเป๋าเตรียมพร้อมที่จะเดินทาง
เสื้อยืดสีดำ กับยีนขาเดบ สวมหมวกแก๊ป มองดูแล้วดูน่ารักไปอีกแบบ เหมือนผู้หญิงที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายยังไงยังงั้น
ชายหนุ่มมองไปที่ร่างบางที่ยืนรอ ใจหายไปเลยทีเดียวอยู่ๆ ก็จะไปไหนก็ไม่รู้ไม่บอกกล่าว ล่วงหน้า
“สวมเสื้อตัวนี่ซะ อากาศเย็นเดียวจะไม่สบายเอา”
แซมยื่นเสื้อแจ๊คเก็ต ตัวเดิมให้กับภูมิ
“เกรงใจจังเลยอะพี่แซม เสื้อตัวนี่ภูมิยึดเลยละกาน”
“ได้เลย แต่ภูมิต้องเอาตัวภูมิมาแลกนะ” ชายหนุ่มพูดจากำกวมอีกแล้วเล่นเอาแซม งงกับคำพูดของพี่ชาย
“พี่หมายถึง อย่าหนีพี่ไปไหนก็พอ”
“อ๋อ ... นึกว่าอะไร พี่นิ..ชอบพูดอะไรงง งง อยู่เรื่อยเลย”
แซมยิ้มให้กับภูมิ พร้อมกับขับรถไปยังท่ารถ เช่นเคยภูมิเป็นคนขับ
“จะไปไหนเหรอ” ชายหนุ่มเอ๋ยถามแนบชิดกับใบหู จนภูมิต้องยกไหล่ขึ้นมาด้วยความจั๊กกะจี่
“ภูมิจะไปบ้านไปหาแม่ซะหน่อย”
“ไปกี่วัน”
“พี่แซมอะ............... ภูมิหูหนวกพี่รับผิดชอบนะ............. เดี่ยวเหอะ........ไปประมาณสองสามวัน”
แซมมีสีหน้าเศร้าลงไปในทันที ชายหนุ่มนั่งนิ่งเงียบจนถึงท่ารถ เหมือนโดนแกล้งยังไงไม่รู้ รถบัสมาพอดิบพอดี
“พี่แซมภูมิไปก่อนนะ เดี่ยวเอาของมาฝาก” ภูมิยิ้มให้ โบกมือ ก่อนที่จะวิ่งขึ้นไปบนรถ หาที่นั่งได้ก็มองมาผ่านกระจก โบกมือให้กับชายหนุ่มอีกครั้ง แซมมองไปที่รถบัสที่เคลื่อนตัวออกไป เรื่อยๆจนลับตา
ตลอดระยะเวลาที่ต้องอยู่โดยไม่มีภูมิ มันเป็นอะไรที่ช่างยาวนานเหลือเกิน ชายหนุ่มอยากให้เวลาผ่านไปให้เร็วที่สุด ภาพเด็กผู้ชายหน้าหวานๆ สวยใสยิ่งกว่าสตรีเพศนางใด ทำให้หัวใจของชายหนุ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ
ชายหนุ่มไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองเอาซะเลย ว่าทำไมต้องคิดถึง ห่วงหาเขาได้มากมายขนาดนี่ บางครั้งถึงกับไม่มีสมาธิในการทำงานเลย แซมกลัวเหลือเกิน กลัวความรู้สึกตัวเองกับเจ้าน้องชายคนนี่
เพื่อนๆ ที่สนใจอยากอ่านต่อนะค่ะ
ตอนนี้แต่งจบแล้ว หลายเรื่องมาก บางเรื่องก็ส่งสำนักพิมพ์
เป็นเรื่องที่สมบูรณ์มาก 100 บาท ค่าจัดส่งอีก 50 บาท
รวมเป็น 150 บาท
การจ่ายเงิน
โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร
โทรศัพท์แจ้งการโอนเงิน เก็บสลิปไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 316-0-17844-7
ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี ภูมิภัทร
เพียง โทรศัพท์มาที่ 084-4714186
ให้เพื่อนๆพูดก่อนผู้เขียนค่ะ....ถ้าไม่พูดก่อน ผู้เขียนจะไม่เงียบ
โอเค
ตี๊ดๆๆๆ
ขอสายคุณ ถั่วพู หน่อยค่ะ
_________________
pooh_physics@hotmail.com
พูดคุยสาระดีดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น